เข้าสู่ยุคคนซื้อบ้าน-คอนโดใกล้รพ.มากกว่ารถไฟฟ้า

นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่าจากการสำรวจพบว่า สิ่งที่คนซื้อบ้าน/ คอนโดให้ความสำคัญเป็นอันดันต้น ยังคงเป็นเส้นทางการเดินทาง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ 88%ต้องการอยู่ใกล้โรงพยาบาลซึ่งเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สะท้อนให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯมีความสนใจและกังวลเรื่องสุขภาพมากขึ้น  65% ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่นธนาคาร, ซุปเปอร์มาร์เก็ต 55%เข้าถึงขนส่งสาธารณะได้สะดวก ถ้าย้อนกลับไป2-3ปีก่อนหลายคนอยากอยู่ใกล้ BTS MRT

แต่ปัจจุบันพฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป และให้ความสำคัญกับระบบระบายอากาศ และแสงธรรมชาติ มีพื้นที่เปิดมากขึ้น  การออกแบบต้องการให้เป็นเสร็จสมบูรณ์ เพราะไม่อยากออกไปจัดการเพิ่มเติมหลังจากรับมอบบ้านเสร็จสามารถเข้าอยู่ได้ทันที

 

 นอกจากนี้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพวัสดุและการตกแต่งภายในจากโครงการ ให้ความสำคัญกับผลงานที่ผ่านมาของผู้พัฒนาโครงการ โครงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ  แม้จะต้องจ่ายมากขึ้นเป็นสิ่งที่คนในยุคนี้ให้ความสำคัญ

อีกอย่างให้ความสำคัญก็คือการมี EV-charging ซึ่งหากคอนโดที่กำลังสร้างเสร็จหรือสร้างเสร็จไปแล้วสามารถเพิ่มบริการในส่วนนี้เข้าไปน่าจะดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้มากขึ้น รวมถึงโปรแกรมส่วนลดและโปรโมชั่นต่างๆของโครงการ

แนวโน้มการทำตลาดอสังหาฯ คงไม่สามารถหลัก4P(Product ,Price, Place, Promotion ) เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะถูกเปลี่ยนมาเป็น 4E ซึ่งประกอบด้วย“ Experience” เพราะผู้บริโภคในปัจจุบัน ไม่ได้ให้สนใจเรื่องค่าใช้จ่ายหากได้สินค้าและบริการที่ดี ลูกค้ายินดีที่ะจ่ายเพิ่ม

ฉะนั้น การสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ  ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคเป็นเรื่องที่สำคัญ ถัดมาเป็นเรื่องของ“Exchange” คือ ความคุ้มค่า ลูกค้ายอมจ่ายเพิ่ม ต่อมา คือ “Everywhere” ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ทุกช่องทาง เช่น ช่องทางออนไลน์ ที่นำมาใช้ในแง่ของการประชาสัมพันธ์  โปรโมท หรือการทำซีเอสอาร์  ให้กับลูกบ้าน

และสุดท้ายคือ “Evangelism” การสร้างลูกค้าประจำการเปลี่ยน  โดยเปลี่ยนจากการดึงดูดลูกค้าด้วยลด-แลก-แจก-แถมมาเป็นแบรนด์ทีอยู่ในลูกค้า (preferred brand)   คือการทำให้ลูกค้ารู้สึกรักแบรนด์ เขาซื้อด้วยอีโมชั่นนอลมากกว่าฟังก์ชันนัล ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในการทำตลาดยุคนี้