“สุพัฒนพงษ์” ลั่นธุรกิจรวยคนเดียวไม่ได้ ขอโรงกลั่นสมัครใจไม่ใช่ขอบริจาค

“สุพัฒนพงษ์” ลั่นธุรกิจรวยคนเดียวไม่ได้ ขอโรงกลั่นสมัครใจไม่ใช่ขอบริจาค

“สุพัฒนพงษ์” ลั่น ธุรกิจยั่งยืนต้องไม่รวยคนเดียว โรงกลั่นต้องยึดธรรมาภิบาล - นโยบายความยั่งยืน พร้อมย้ำขอความสมัครใจช่วยฝ่าวิกฤติน้ำมัน ลั่น ก.ค.นี้ ต้องเห็นผล ฉุนปมตอบปมขอบริจาคเงินช่วยกองทุนน้ำมันฯ ชี้ไม่เคยไปเที่ยวขอเงินใคร

เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (1 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า

ก่อนที่จะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีนายสุพัฒนพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าการหารือกับโรงกลั่น เพื่อขอความร่วมมือนำกำไรจากค่าการกลั่น มาช่วยเหลือในกองทุนน้ำมัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะแล้วเสร็จและได้ข้อสรุปภายในเดือน มิ.ย.แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด

เขากล่าวว่าเรื่องนี้ให้ทางบริษัทโรงกลั่นเขาคุยกันเอง  โดยมีคณะกรรมการจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้าไปร่วมเจรจา และเชื่อว่ากลุ่มโรงกลั่น จะพิจารณาและกำหนดทิศทางไปในทิศทางที่ดี เห็นได้จากเวลานี้ยังมีการเจรจากันอยู่ มิเช่นนั้นคงเลิกประชุมไปแล้ว

ส่วนจะได้คำตอบเมื่อใดคงต้องรอ โดยคาดว่าภายในเดือนก.ค.นี้ จะต้องเห็นผลอะไรออกมาบ้าง ทั้งนี้ยอมรับว่าการใช้มาตรการบังคับในตลาดเสรี เป็นเรื่องที่ยากมาก แต่การใช้ความร่วมมือเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

"เรื่องนี้แม้แต่ในอเมริกา ประธานาธิบดียังใช้การขอความร่วมมือจากไปถึงผู้ประกอบการ"

 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดทางโรงกลั่นยังไม่ได้ข้อยุติในเรื่องนี้ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า มีเรื่องของข้อกฎหมาย ที่เราจะรวบรวมเพื่อถามคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยต้องดูความสมัครใจของโรงกลั่น ด้วย ขณะที่บางกลุ่มมีข้อเสนอว่าควรจะใช้กฎหมายบังคับเนื่องจากมีเรื่องของการถือหุ้นในบริษัทมหาชน

“บริษัทเหล่านี้ทำธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อกำไรสูงสุดอย่างเดียว ต้องคำนึงถึงสังคมและชุมชนด้วย เพราะปัจจัยเหล่านี้นำไปใช้อธิบายกับผู้ถือหุ้นได้ เรื่องใดที่อยู่ในระดับที่เหมาะควรทำได้อยู่แล้ว เพราะเป็นนโยบายของแต่ละบริษัทที่ประกาศตนเป็นบริษัทที่ยังยั่งยืนและมีธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นธรรมดาของบริษัทที่ดี การจะยั่งยืนอยู่ได้ ไม่ใช่ตัวเองจะร่ำรวยอยู่คนเดียว ต้องดูพวกบริโภคและคนรอบข้างไปด้วยกันได้” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

เมื่อถามว่า มาตรการของรัฐบาลจะเป็นการขอบริจาค แทนการออกกฎหมายกับโรงกลั่นใช่หรือไม่

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดว่า “ไม่เคยขอใคร เขาจะบริจาคก็บริจาค เราไม่ได้เที่ยวไปขอใคร อยากให้เข้าใจ เดี๋ยวจะหาว่าไปบังคับ แต่ให้เขาพิจารณาเองว่าจะช่วยในรูปแบบไหน”

เมื่อถามว่าทั้ง 6 โรงกลั่น ต้องส่งเงินให้รัฐทั้งหมดหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องพิจารณากันดู บางส่วนทำได้ก่อนก็ทำ บางส่วนจะขอรอคณะกรรมการก็ว่ากันไป