รอวันฝนซา (วันที่ 6 กรกฎาคม 2565)

รอวันฝนซา (วันที่ 6 กรกฎาคม 2565)

ตลาดหุ้นวานนี้ SET ร่วง 19 จุด ปิดที่ระดับ 1,541 จุด ทำจุดต่ำสุดในรอบ 11 เดือน Fund flow ต่างชาติไหลออก หลังอัตราเงินเฟ้อบ้านเราพุ่งแตะระดับ 7.66% สูงสุดในรอบ 14 ปี และกังวลไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว ค้าปลีก  ไฟแนนซ์ และ กลุ่มส่งออก ถูกเทขายกดดันตลาด

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,525 – 1,530 จุด ตามความกังวลเศรษฐกิจถดถอยจากการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้ Fund flow ต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรง รวมถึงความกังวลยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในประเทศที่อาจเร่งตัวขึ้นหลังเปิดเมืองจะเป็นแรงกดดันให้ต่อทิศทางการลงทุน

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

         GPSC BGRIM GULF SCGP SCC อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

         BDMS BH BCH CHG อานิสงส์แนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 สูงขึ้น

         ASIAN GFPT KCE HANA กลุ่มส่งออกได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า

 

หุ้นแนะนำวันนี้

GPSC (ปิด 64.5 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72 บาท) YTD ราคาหุ้นร่วงหนักสะท้อนต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว วันนี้น้ำมันดิบร่วงแรงจึงเป็น Sentiment บวก ประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP สูง

CBG (ปิด 108.5 ซื้อ/เป้า 130 บาท) ได้ Sentiment บวกจากทิศทางราคาอะลูมิเนียมที่ปรับตัวลงแตะระดับ 2,376$/ton ต่ำสุดในรอบ 1 ปี ส่งผลบวกโดยตรง CBG เนื่องจากมีสัดส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระป๋องราว 60% ของทั้งหมดโดยมีอะลูมิเนียมคิดเป็น 20-25% ของต้นทุนรวม

 

 

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

            BANPU (ปิด 12.5 ซื้อ/เป้า 17 บาท), Food sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนหนัก กังวล ศก. ถดถอย และกลัวจีนกลับมาล็อกดาวน์รอบใหม่: ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 129 จุด ปิดที่ระดับ 30,968 จุด ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปลดลงเฉลี่ย 2-3% เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกกังวลกับภาวะ ศก.ถดถอยหลังตลาดพันธบัตรสหรัฐกลับมาเกิดภาวะ Inverted yield curve อีกครั้ง และแบบจำลอง GDP Now ระบุ ศก. สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีนเร่งตัวขึ้นสร้างความกังวลว่าจีนอาจจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง

(-) น้ำมันดิบ WTI ร่วง 8.93$ หลุดระดับ 100$/bbl กังวลดีมานด์หดตัวแรง: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 8.93 ดอลลาร์ หรือ 8.2% ปิดที่ 99.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน โดยมีปัจจัยลบเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกคือนักลงทุนกังวล ศก. ถดถอย และ จีนอาจจะกลับมาล็อกดาวน์ครั้งใหม่ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันดิบของโลกลดลง โดย ซิตี้กรุ๊ปคาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อาจจะทรุดตัวลงแตะระดับ 65 ดอลลาร์ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

(+/-) พรุ่งนี้ติดตาม FED Minutes จับสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด: FED จะเปิดเผยรายงานการประชุมที่มีขึ้นในช่วงวันที่ 15-16 มิ.ย. ที่ผ่านมาเบื้องต้นเราคาดว่าในรายการประชุมดังกล่าวคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่จะสนับสนุนให้เฟดเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี โดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5-0.75% ในการประชุมที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ค. นี้