หุ้นปลอดภัยเป็นแหล่งพักเงินในช่วงที่ตลาดกังวลปัจจัยต่างๆ 

(เงินเฟ้อมิ.ย.ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 8.8% จากเดือน พ.ค.ที่ 8.6%)  เรามองว่าความสนใจของนักลงทุนเปลี่ยนจากตัวเลขเงินเฟ้อไปเป็นผลกระทบต่อเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศในช่วงไตรมาส 2/65 ซึ่งหลายกลุ่มน่าจะมีการปรับลดลงหรือให้สัญญาณ (guidance) ถึงแนวโน้มที่อาจจะชะลอ ไม่ว่าจะเป็นผลของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น, กำลังซื้อที่ชะลอตัว หรือผลของอุปสงค์ที่สูงผิดปกติไปในช่วงก่อนหน้า ทำให้ภาพรวมการลงทุนในหุ้นมีแนวโน้มชะลอจนกว่านักลงทุนจะรับรู้ของการปรับลดประมาณ ภาพดังกล่าวทำให้กลุ่มหุ้นปลอดภัย มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีในช่วงตลาดกังวลต่อการปรับประมาณการ โดยหุ้นที่เราชอบได้แก่ กลุ่มสื่อสาร กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ ADVANC, DTAC, BGRIM, GPSC, RAM, BCH, CHG, BDMS
 

กลุ่มเปิดเมืองยังเป็นเป้าหมายซื้อกลับ แม้ระยะสั้นอาจมีแรงทำกำไรจากสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ทั่วโลก เรายังชอบโมเมนตัมการเติบโตของหุ้นกลุ่มเปิดเมืองและเปิดประเทศที่คาดจะเป็นขาขึ้นไปอย่างน้อยจนกลางปี 2566 อย่างไรก็ตามในระยะสั้นหุ้นอาจมีแรงขายทำกำไรจากการระบาดของโควิดทั่วโลกระลอกใหม่จากข่าวต่างๆ อาทิ 1) มาเก๊าประกาศปิดคาสิโนทุกแห่งในรอบ 2 ปี เพื่อควบคุมการระบาด 2) การพบผู้ป่วยรอลอกใหม่ในจีน ทำให้ตลาดกังวลถึงการปิดเมืองรอบใหม่ 3) รัฐแคลิฟอร์เนีย และบางประเทศในยุโรป เริ่มพิจารณาถึงการนำมาตรการบังคับการใส่หน้ากากกลับมาใช้ // สำหรับกลุ่มเปิดเมือง ท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้า ช่วงสั้นอาจเผชิญแรงขายทำกำไรจากความกังวลการระบาดของโควิดระลอกใหม่ แต่เรามองเป็นเป้าหมายในการทยอยซื้อแบบตั้งรับ โดยหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ SPA, VRANDA, MINT, ERW, CENTEL, MBK, CPN, CRC เป็นต้น
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ภาพใหญ่มีโอกาสซึมลงจากการทยอยปรับประมาณการ ช่วงสั้นเม็ดเงินมีโอกาสเข้าพักหุ้นปลอดภัย (สื่อสาร ไฟฟ้า การแพทย์) ระหว่างทยอยสะสมหรือรอจุดซื้อในหุ้นที่อาจถูกขายทำกำไรจากความกังวลการระบาดโควิดรอบใหม่ รวมถึงโอกาสเกิดล็อคดาวน์รอบใหม่ที่จีน 1) กลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก) ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการทยอยสะสมและซื้อกลับหลังแรงทำกำไรรอบนี้ของเรา 2) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิงหุ้นจีน) //หุ้นแนะนำ:  CPF*, CBG*, RATCH*, EGCO*

แนวรับ: 1,520-1,540 / แนวต้าน : 1,565 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนีดอลลาร์ทะลุ 108 นิวไฮ 20 ปี - ทะยานขึ้นใกล้แตะระดับ 1.00 เทียบยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเช่นกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยูโรโซน บางช่วงลงไปแตะ 1.007 เทียบยูโร

คาดแบงก์สหรัฐกำไรลดใน Q2/65 จากเพิ่มกันสำรองหนี้สูญ - ธนาคารขนาดใหญ่จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 14-15 ก.ค. นักวิเคราะห์เตือนว่าธนาคารสหรัฐจะรายงานตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 ที่น่าผิดหวัง เนื่องจากมีการเพิ่มการกันสำรองหนี้สูญ ท่ามกลางแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ยุโรปกังวลรัสเซียตัดก๊าซผ่านท่อส่ง Nord Stream 1 หลัง 21 ก.ค. - บริษัท Nord Stream AG จะเริ่มปิดท่อ Nord Stream 1 ประกาศยืนยันว่า เพื่อทำการซ่อมบำรุงจนถึงวันที่ 21 ก.ค. มีความวิตกกันว่ารัสเซียจะยังคงตัดการส่งก๊าซธรรมชาติไปยังยุโรป แม้ Nord Stream 1 เสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงในวันที่ 21 ก.ค. ซึ่งจะทำให้ยุโรปเผชิญวิกฤตพลังงาน และทำให้ราคาพลังงานสำหรับภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ผู้นำรัสเซียและตุรกีเตรียมหารือหนุนส่งออกธัญพืชยูเครน – ผู้นำทั้งสองได้หารือกันเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกสำหรับการส่งออกธัญพืชของยูเครน เพื่อให้มีการจัดตั้งระเบียงทางทะเลสำหรับการส่งออกธัญพืชของยูเครนผ่านทางทะเลดำ

คลังเผยภาพรวมเบิกจ่ายงบประมาณไตรมาส 3 ปี 65 คิดเป็น 73.2% - เบิกจ่ายแล้ว 2.26 ล้านล้านบาท คิดเป็น 73.20% ของวงเงินงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท 

รมว.คลัง มองขยายมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯที่จะหมดในปีนี้ – จ กระทรวงการคลัง เตรียมจะหารือกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงมหาดไทย ในการขยายเวลามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เช่น มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง, การผ่อนปรนมาตรการ LTV และอาจให้ต่างชาติสามารถถือครองที่ดินได้ เรามองประเด็นดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกต่อ AP และ LH ที่ชำนาญแนวราบ // สำหรับหุ้นเด่นในกลุ่ม เรายังชอบ ORI และ SPALI

 

ประเด็นติดตาม: 13 ก.ค. - US CPI / 13-20 ก.ค. – รายงานงบกลุ่มแบงก์ / 14 ก.ค. – US PPI, China GDP / 15 ก.ค. - US Retail Sales / 19 ก.ค. – EU CPI / 20 ก.ค. – US Existing Home Sales

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)