TFG ประมาณการ 2Q65F: จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง
เราคาดว่ากำไรปกติของ TFG ใน 2Q65F จะอยู่ที่ 737 ล้านบาท (+10% QoQ และ 38% YoY) ซึ่งเมื่อรวมผลขาดทุนพิเศษ 60 ล้านบาทจะทำให้กำไรสุทธิใน 2Q65F อยู่ที่ 689 ล้านบาท (+11% QoQ, +60% YoY)
เราคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 7% QoQ และ 33% YoY เป็น 1.12 หมื่นล้านบาท เนื่องจากธุรกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งทุกกลุ่มจากราคาขายที่แพงขึ้น โดยคาดว่ารายได้จากร้านค้าปลีก (Thaifoods Fresh Market) จะเพิ่มขึ้น 15% QoQ และ 435% YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท อิงจากสมมติฐานจำนวนสาขาร้านที่ 138 ร้านใน 2Q65F ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 113 ร้านใน 1Q65 และ 17 ร้านใน 2Q64 ทั้งนี้ ราคาเนื้อสัตว์ที่แพงขึ้น และ margin ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจร้านค้าปลีกของ TFG จะช่วยหนุนให้ margin ของบริษัทเพิ่มขึ้นน อกจากนี้ การที่บริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายของตัวเองยังส่งผลดีต่อราคาขายชิ้นส่วนไก่ (byproduct) ของบริษัทด้วย ทำให้ GPM เพิ่มขึ้น 20bps QoQ และ 410bps YoY เป็น 15.5% อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 7.0% แต่จะเพิ่มขึ้น 250bps YoY เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งแพงขึ้น และต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ขึ้นอีก 7% และปี 2566F ขึ้นอีก 2%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ขึ้นอีก 7% เป็น 2.70 พันล้านบาท เนื่องจากเราปรับเพิ่มสมมติฐานราคาหมูขึ้นอีก 3% เป็น 98 บาท/กก. และราคาไก่ขึ้นอีก 5% เป็น 43 บาท/กก. ในขณะเดียวกันเราปรับลดสมมติฐานต้นทุนอาหารสัตว์ลงเล็กน้อย (กากถั่วเหลือง 3% และข้าวโพด 1%) ดังนั้น เราจึงคาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น 2% เป็น 4.66 หมื่นล้านบาท ในขณะที่คาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้น 30bps เป็น 15.6%ในปี 2565F นอกจากนี้ เรายังปรับเพิ่มประมาณการและกำไรสุทธิปี 2566F ขึ้นอีก 2% เป็น 3.00 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดสมมติฐานราคากากถั่วเหลืองลง 5% ซึ่งจะทำให้ GPM เพิ่มขึ้น 20bps
เป็น 15.3% ในขณะเดียวกัน เรายังคงสมมติฐานราคาเนื้อสัตว์ปีหน้าเอาไว้เท่าเดิม
Valuation & action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ TFG และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายปี 2566F เป็น 8.30 บาท จากเดิมที่ 8.10 บาท โดยอิงจาก PER ที่ 17.0x (+0.5 S.D.) และ EPS แบบ fully-diluted ที่ 0.48 บาท
Risks
ต้นทุนอาหารสัตว์ และค่าระวางแพงขึ้น, เศรษฐกิจชะลอตัวลง, ราคาเนื้อสัตว์อ่อนแอ