กรุงเทพธนาคมถก BTS สางปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว

กรุงเทพธนาคมถก BTS สางปมรถไฟฟ้าสายสีเขียว

กรุงเทพธนาคม หารือผู้บริหารบีทีเอสซีนัดแรก พร้อมร่วมมือแก้ปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ละฝ่ายเตรียมตั้งคณะทำงานพิจารณาในรายละเอียด ชี้หากได้ข้อสรุปเร็วจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย

ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ ประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด พร้อมคณะกรรมการบริษัท ประชุมหารือร่วมกับ นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี และคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง

 ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในวันนี้เป็นครั้งแรกที่ทางคณะกรรมการบริษัทชุดใหม่ได้ขอนัดหมายเพื่อพูดคุยกับทางบีทีเอสซี ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากผู้บริหารของ  บีทีเอสซี ที่ได้ตอบรับเข้ามาพูดคุยในวันนี้ โดยเรื่องแรกที่ได้พูดคุยคือในเรื่องของการเปิดเผยสัญญาที่ทางกรุงเทพธนาคม ได้มอบสัญญาที่ได้ทำร่วมกับบีทีเอสซี ให้ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเมื่อกทม.รับสัญญาแล้วจะนำไปดำเนินการในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลอย่างไรนั้น เป็นเรื่องของกทม.ตามที่ได้มีการแจ้งต่อสื่อไปก่อนหน้านี้ ทางบีทีเอสซีก็ได้ฝากข้อสังเกตว่าหากมีการเปิดเผย ก็น่าที่จะเปิดเผยโดยเท่าเทียมกับบริษัทอื่นที่ทำธุรกิจเดียวกัน  ซึ่งในส่วนนี้จะนำไปเรียนทางผู้บริหารกทม.เพื่อประกอบการตัดสินใจของกทม.ต่อไป

 สำหรับการฟ้องร้องศาลปกครองเป็นคดีความในเรื่องของค่าเดินรถนั้น เพื่อไม่ให้ล่าช้าไปจนถึงคดีความสิ้นสุด ซึ่งจะต้องมีค่าดอกเบี้ยต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นตลอดนั้น  ได้มีการพูดคุยและเห็นร่วมกันว่าจะมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อมาพูดคุยเรื่องตัวเลขต่างๆ ที่อาจยังมีความเห็นต่างกันอยู่ รวมทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเดินรถ เพื่อดูในข้อเท็จจริงที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งอาจมีปัจจัยหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป เช่น  เรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ  หรือในส่วนของค่าโฆษณาบนตัวรถไฟฟ้าที่ไม่มีการระบุไว้ในสัญญาทั้งส่วนที่1 และส่วนที่ 2 และในเรื่องที่การมีส่วนต่อขยายเพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารในส่วนสัญญาสัมปทาน เพิ่มขึ้นด้วยนั้น 
 
 
 
จะต้องมีการพูดคุยในรายละเอียด โดยทั้งทางเคทีและทางบีทีเอสซี แต่ละฝ่ายก็จะไปตั้งคณะทำงานเพื่อไปดูในข้อมูลต่างๆ   แล้วจึงนำข้อมูลที่ต่างฝ่ายได้พิจารณาแล้วมาให้ทางคณะกรรมการชุดย่อยที่มีตัวแทนทั้ง 2 ฝ่าย นำมาพูดคุยกัน โดยในส่วนของเคทีก็จะมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูข้อมูลให้รอบคอบ   ทั้งนี้หากการพูดคุยร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายเป็นที่ยุติได้เร็วก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการรอให้คดีความสิ้นสุด  ซึ่งในวันนี้ภาพรวมทางบีทีเอสซีก็พร้อมที่จะพูดคุยกันในข้อมูลที่เป็นเหตุเป็นผล  ซึ่งก็ต้องขอเวลาให้ทางคณะทำงานได้ทำงานกันก่อน หากมีความชัดเจน มีความคืบหน้า ก็สามารถนัดหมายพูดคุยกันได้อีก  
 
 ศาสตราจารย์พิเศษธงทอง กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นการจัดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-คูคต และส่วนต่อขยายจากแบริ่ง – สมุทรปราการที่เดินรถฟรีมานานนั้น ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ   เคที  เป็นการตัดสินใจของกทม. ในเรื่องนี้ได้รับข้อมูลจากทางบีทีเอสซีเพื่อไปแจ้งกับทางผู้บริหารกทม.ว่า เมื่อมีการตัดสินใจกำหนดอัตราค่าโดยสารเป็นเท่าไหร่แล้วนั้น ทางบีทีเอสซีจะต้องใช้เวลาในการปรับระบบต่างๆ ป้ายแจ้งต่างๆในสถานี  ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ที่จะดำเนินการเตรียมระบบรองรับ ซึ่งจะนำไปเรียนทางกรุงเทพมหานคร ต่อไป.