“พลังงาน-กลุ่มปตท.-ดีเอ็มจี” หารือระดับอาเซียน โชว์นวัตกรรมพลังงานสะอาด
“พลังงาน” ผนึก “ปตท.-ปตท.สผ.-ดีเอ็มจี” จัดงาน “ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี เอเชีย” และ “ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย” ประจำปี 65 ดึงรัฐ-เอกชน 50 ชาติ หารือเชิงกลยุทธ์และทางเทคนิค พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมพลังงานสะอาด-ยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ระหว่างวันที่ 20-23 ก.ค. 65
นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านพลังงานควบคู่ไปกับการระบาดใหญ่ของโควิดและสถานการณ์วิกฤตพลังงานของโลกในปัจจุบัน โดยภายในการประชุมสุดยอดผู้นำ COP26 Leader’s Summit ประเทศไทยได้ประกาศตั้งเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ปี พ.ศ. 2608
ทั้งนี้ ประเทศไทยกำลังเดินหน้ากำหนด 'แผนพลังงานแห่งชาติ 2565’ เพื่อมุ่งสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิดรักษ์โลก พร้อมกับความมั่นคงและการแข่งขันด้านพลังงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน โดยดำเนินงานตามนโยบาย 4D ซึ่งประกอบด้วย การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) การผลิตไฟฟ้าแบบกระจายตัว และความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้า (Decentralization) การเปิดเสรีภาพพลังงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม และการแข่งขันอย่างเป็นธรรม (Deregulation) และ Digitalization การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีด้านพลังงาน (Deregulation)
“ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญระดับโลก โดยคณะกรรมการนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ได้อนุมัติเป้าหมายในการส่งเสริมยานยนต์ไร้มลพิษ (Zero Emission Vehicle หรือ ZEV) ซึ่งเรียกว่านโยบาย 30@30 เพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ถึง 30% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2573”
ทั้งนี้ ซึ่งภายใต้นโยบายดังกล่าว มีมาตรการสนับสนุนและข้อเสนอจูงใจหลายประการในการกระตุ้นตลาดยานยนต์ไฟฟ้า อาทิ การสนับสนุนการลงทุนสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า การกำหนดมาตรฐานและข้อบังคับสำหรับการขอใบอนุญาต และการพัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาโรงงานให้มีขนาดกำลังการผลิตอยู่ที่ 40 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2573 รวมถึงวางแผนติดตั้งสถานีฟาสต์ ชาร์จจิ้ง (Fast Charging) ให้ได้ 12,000 ยูนิตทั่วประเทศ
สำหรับจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและยานยนต์พลังงานสะอาดนั้นเชื่อมโยงกันอย่างแยกไม่ออก ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างกำลังผลักดันให้เกิดแนวปฏิบัติด้านพลังงานในทิศทางเดียวกัน โดยประเทศในภูมิภาคอาเซียนเตรียมมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในระหว่างปี พ.ศ. 2593 – 2613
ล่าสุด กระทรวงพลังงาน ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ดีเอ็มจี อีเวนท์ จำกัด ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานครั้งสำคัญ จัดงาน “ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี เอเชีย” (Future Energy Asia) และ “ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย” (Future Mobility Asia) ประจำปี 2565 การประชุมด้านพลังงานและยานยนต์พลังงานสะอาด และการจัดแสดงนิทรรศการ สุดยอดนวัตกรรมระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 20-22 ก.ค. 2565 ณ ฮอลล์ 98 - 99 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา
โดยพบกับผู้นำด้านอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลกกว่า 130 ท่าน ร่วมเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนความรู้ด้านพลังงานระดับนโยบาย โดยเป็นการรวมตัวของกลุ่มผู้นำและผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในอุตสาหกรรมที่ทรงอิทธิพลที่สุดนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2561 อาทิ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
ด้านงาน ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย เป็นงานนิทรรศการและสุดยอดการประชุมที่ทำให้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นศูนย์กลางของการเจรจาและเป็นเวทีผู้นำทางความคิดด้านยานยนต์พลังงานสะอาดระดับโลก เพื่อสนับสนุนภารกิจในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปสู่อนาคตยานยนต์พลังงานสะอาดที่เป็นอิสระและมีความเชื่อมโยงกัน ผ่านการเสวนาโดยวิทยากรจากองค์กรชั้นนำระดับโลกกว่า 80 ท่าน อาทิ มร. อาริฟิน ทาสริฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่แห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย, มร. มรุกางค์ อินัมดาร กรรมการผู้จัดการ ตะวันออกกลางและเอเชีย ไฮซัน มอเตอร์ส, คุณชนินทร์ ขาวจันทร์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และอีกมากมาย
สำหรับนิทรรศการภายในงาน ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี เอเชีย และ ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย ได้รวบรวมสินค้าและนวัตกรรมกว่า 150 ราย ครอบคลุมทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าด้านพลังงานและยานยนต์พลังงานสะอาด โดย ฟิวเจอร์ เอนเนอร์ยี เอเชีย มีหัวใจสำคัญคือการผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยแบ่งโซนการจัดแสดงออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่ ไฮโดรเจน, ก๊าซและ LNG, เทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน และพลังงานหมุนเวียน อาทิ กลุ่มความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์แห่งประเทศไทย รวมถึงการจัดแสดงเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ, เทคโนโลยี AI และนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
โดยงาน ฟิวเจอร์ โมบิลิตี้ เอเชีย ได้รับการสนับสนุนจากผู้แสดงสินค้าจากองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม กว่า 87 ราย จากกว่า 18 ประเทศ โดยภายในงานมีกิจกรรมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างผู้เข้าร่วมงานและอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาด อาทิ การจัดแสดงด้านยานยนต์พลังงานสะอาดของประเทศไทย นำโดยกระทรวงพลังงานและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน โซนจัดแสดงนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัย พร้อมการสาธิตและทดลองขับยานยนต์ไฟฟ้า โดยผู้เข้าร่วมจะสามารถเข้าถึงระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานสะอาดได้อย่างครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตอุปกรณ์ดั้งเดิม (OEM) สำหรับรถยนต์โดยสาร รถยนต์เพื่อการพาณิชย์
ซัพพลายเออร์หลังการขาย, ผู้ให้บริการแบตเตอรี่ ระบบจัดเก็บพลังงาน, โครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบชาร์จ และเทคโนโลยีเพื่อการอำนวยความสะดวกหลายรูปแบบ โดยมีองค์กรชั้นนำที่มาร่วมสนับสนุนและจัดแสดงนิทรรศการ อาทิ แดสสอล์ท ซิสเต็มส์, อีวีโลโม, เฮกซากอน, ไซส์, อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส, จีโอแท็บ, แม็กซิออน วีลส์, ทีอี คอนเน็คทิวิตี้, เอบีม คอนซัลติ้ง, เอฟโอเอ็มเอ็ม, เกรท วอลล์ มอเตอร์, ศูนย์วิจัยยานยนต์และระบบขนส่งอัจฉริยะ, ออนไอออน โมบิลิตี้ เป็นตน
ทั้งนี้ ตลอด 3 วัน จะเป็นการเชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 10,000 ราย ผ่านสุดยอดการประชุม การสร้างเครือข่าย และการทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมการประกาศความร่วมมือระหว่างกลุ่มความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCUS) แห่งประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งโดยหน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับประเทศ เพื่อร่วมสนับสนุนความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดังกล่าว ตั้งแต่ขั้นตอนการวิจัยไปจนถึงการใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม