'ประยุทธ์' ชื่นชม'SDG Investor Map' หนุนไทย - สวิสฯร่วมมือดันคาร์บอนเครดิต

'ประยุทธ์' ชื่นชม'SDG Investor Map' หนุนไทย - สวิสฯร่วมมือดันคาร์บอนเครดิต

'ประยุทธ์' ชื่นชมหน่วยงานช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ทำ SDG Investor Map ส่งเสริมการลงทุนภาคธุรกิจไทยแบบรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมยินดีไทย-สมาพันธรัฐสวิส ทำข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต เชื่อมั่นไทยพร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยกันขับเคลื่อนยกระดับการพัฒนาประเทศ จัดทำ SDG Investor Map แผนที่การลงทุนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมภาคธุรกิจไทยบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ตามแนวยุทธศาสตร์แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดันนโยบายเมืองคาร์บอนต่ำ ร่วมมือสมาพันธรัฐสวิส ทำข้อตกลงถ่ายโอนคาร์บอนเครดิต

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) ประจำประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ร่วมกันจัดทำแผนที่การลงทุนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย (SDG Investor Map) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มข้อมูลเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนและภาคธุรกิจให้ความสำคัญต่อการลงทุนเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีการจัดเก็บข้อมูล และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสภาวะตลาด เพื่อประกอบการตัดสินใจต่อการลงทุนต่าง ๆ

อาทิ โอกาสทางตลาด ผลตอบแทนการลงทุน ผลประโยชน์ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งข้อมูลแบบเดียวกันจาก 19 ประเทศ ได้แก่ จีน โคลอมเบีย อาร์เมเนีย เบลีซ บราซิล คอสตาริกา จิบูตี กานา อินเดีย อินโดนีเซีย จอร์แดน เคนยา นามิเบีย ไนจีเรีย ปารากวัย รวันดา แอฟริกาใต้ ตุรกี และยูกันดา

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ผ่านการศึกษาวิจัยและการรับฟังความคิดเห็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และช่วยอำนวยความสะดวกในการสำรวจและค้นหาโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุน และองค์กรธุรกิจที่กำลังมองหาการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนไปพร้อมๆ การสร้างประโยชน์ให้แก่สิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้แก่ธุรกิจและเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

รายงาน Thailand SDG Investor Map นำเสนอ 15 โอกาสการลงทุนภายใต้ 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ทรัพยากรหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก บริการด้านสุขภาพ การขนส่ง การเงิน โครงสร้างพื้นฐาน บริการ และการศึกษา ที่มีการดำเนินงานส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและมีการปฏิบัติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งรายงานนี้ถือว่าช่วยแก้ปัญหาเรื่องประสิทธิภาพการผลิต ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัล และมุ่งเน้นไปที่การสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นสำคัญ

ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด“เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน” ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ประจำปี พ.ศ.2566 – 2570 ของรัฐบาล ซึ่งให้ความสำคัญต่อการสร้างเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สังคมแห่งโอกาสและความเท่าเทียมกัน วิถีชีวิตที่ยั่งยืน และการเสริมสร้างปัจจัยที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินหน้าตามวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผู้สนใจร่วมมือกับไทย โดย ทส. ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum Of Understanding: MOU) ซื้อขาย “คาร์บอนเครดิต” ระหว่างประเทศไทยกับสมาพันธรัฐสวิส เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อภาคเอกชนให้เกิดการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและเงินทุนระหว่างประเทศเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งเกิดความตื่นตัวในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศ พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net zero GHG emission) ตามเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี

“รัฐบาลเดินหน้าขับเคลื่อนส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และพร้อมทำต่อไป ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 และยุทธศาสตร์ชาติ ในด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งอนาคต และสร้างการเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีทราบดีว่า ความท้าทายเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ การพัฒนา กระตุ้น ฟื้นฟูทางเศรษฐกิจจำเป็นต้องสอดรับกับแนวทางเพื่อดูแล รักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เพื่อส่งต่อโลกที่มั่นคงยั่งยืนใบนี้ให้กับเยาวชนรุ่นหลัง” นายธนกรฯ กล่าว