OSP - ใช้เวลาหาสมดุลใหม่ (22 กรกฎาคม 2565)

OSP - ใช้เวลาหาสมดุลใหม่ (22 กรกฎาคม 2565)

เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 2Q22F จะเพิ่มขึ้น 4% yoy และ 13% qoq เป็น 850 ล้านบาท หนุนโดยรายได้เงินปันผล 200 ล้านบาทจาก Unicharm ซึ่งเลื่อนมาจาก 1Q เรามองว่าการแข่งขันในตลาดเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศจะเข้มข้นมากขึ้น

ปรับลดคำแนะนำ OSP จากซื้อเป็น “ถือ” และปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ลงเหลือ 34.5 บาท (จากเดิม 38 บาท)

 

กำไรสุทธิใน 2Q จะเพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq จากเงินปันผล

เราคาดว่ารายได้ใน 2Q22F จะเพิ่มขึ้น 5% yoy แต่ลดลง 3% qoq เหลือ 7.3 พันล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น yoy จะมาจากยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่ม functional drink ที่เพิ่มขึ้น 10% yoy และยอดขายของธุรกิจของใช้ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% yoy หลังการกลับมาเปิดประเทศ ส่วนรายได้ที่ลดลง qoq ใน 2Q22F จะเป็นเพราะฐานสูงใน 1Q และได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาขายเครื่องดื่ม energy drink ซึ่งทำให้ปริมาณยอดขาย energy drink ลดลง เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวอยู่ที่ 32.0% จาก 31.7% ใน 1Q ทั้งนี้เราคาดว่ากำไรสุทธิใน  2Q จะเพิ่มขึ้น 4% yoy และ 13% qoq เป็น 850 ล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง yoy และ qoq เนื่องจากมีรายได้เงินปันผล 200 ล้านบาทจาก Unicharm ซึ่งเลื่อนมาจาก 1Q อย่างไรก็ตามรายได้จากเงินปันผลยังต่ำกว่าในปี 2021 ที่ 309 ล้านบาท

ใช้เวลาหาสมดุลใหม่ในตลาด

ทั้งที่ปริมาณขายลดลง แต่บริษัทคงนโยบายขึ้นรักษาราคาเครื่องดื่ม energy drink ไว้ที่ขวดละ 12 บาทโดยมองว่าผลบวกจากการขึ้นราคามีมากกว่าผลลบ อย่างไรก็ตามระยะเวลาของช่วงเปลี่ยนผ่านอาจจะนานกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้เพราะคู่แข่งยังชะลอการปรับราคาตาม ทำให้เราคาดว่า OSP อาจจะต้องพยายามดึงส่วนแบ่งตลาดกลับมาโดยการอัดแคมเปญการตลาดมากยิ่งขึ้น

 

ลดคำแนะนำเป็น ถือ ประเมินราคาเป้าหมายใหม่ 34.5 บาท (จากเดิม 38 บาท)

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY22F และ FY23F ลง 9% และ 6% เหลือ 3.3 พันล้านบาท และ 3.9 พันล้านบาท ตามลำดับ หลังจากที่เราปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นลงเพื่อสะท้อนการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นในตลาดเครื่องดื่ม energy drinks ทั้งนี้ ราคาเป้าหมาย DCF ของเราใช้สมมติฐาน WACC ที่ 8.4% และ terminal growth rate ที่  2.5%