SCC ลุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้น-จีนเปิดประเทศ หนุนดีมานด์ครึ่งปีหลัง65โต
“ปูนซีเมนต์ไทย”nเตรียมพร้อมรับมือความผันผวน หั่นงบลงทุนปีนี้เหลือ 7 หมื่นล้าน เดิม 7.5-8.5 หมื่นล้าน หวังรักษาสภาพคล่อง ทบทวนการลงทุนสอดคล้องกับกลยุทธ์-สร้างรายได้เร็ว ลุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นและจีนกลับมาเปิดประเทศ หนุนดีมานด์ทุกผลิตภัณฑ์โต
นายณรงค์พันธุ์ ลีสหะปัญญา Director-Investor Relations and Strategic Planning บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า สำหรับทิศทางการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565 มองว่ายังมีความท้าทาย ธุรกิจต้องเตรียมพร้อมรับมือ ความไม่แน่นอน ทั้งจากปัญหาสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงยังมีปัญหาความขัดแย้งของสหรัฐและจีน ทำให้ตลาดยังมีความผันผวน
อย่างไรก็ตาม คาดเศรษฐกิจจีนน่าจะปรับตัวดีขึ้น หลังจากถูกล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะเป็นอัพไซด์ได้ แต่ก็ยังต้องจับตาดูต่อไปว่าจะฟื้นตัวได้เร็วหรือไม่ รวมถึงยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยด้วย เนื่องจากอาจส่งผลกระทบกับดีมานด์ในตลาดและฉุดราคาขายให้ปรับตัวลง
ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง 65 ได้เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์และวิกฤติที่จะเกิดขึ้น ด้วยการเก็บเงินสด และทบทวนการลงทุน ล่าสุด บริษัทได้พิจารณาปรับลดวงเงินลงทุนปีนี้เหลือ 70,000 ล้านบาท จากเดิมวางไว้ 75,000-78,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุน
พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าทำดีลดิลิเจนท์ เช่น แผนเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกิดประโยชน์และสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันก็จะพิจารณาชะลอการทำดีล ในดีลที่ไม่สามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันที เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์ภายในประเทศและภายนอกประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง
“เราต้องมีการทบทวนโครงการลงทุนทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อลงทุนไปแล้วจะก่อให้กับประโยชน์กับบริษัทได้จริงและมีรายได้เข้ามาเร็ว หากโครงการลงทุนไหนไม่สอดคล้องก็สามารถชะลอการลงทุนไปก่อนได้"
นายณรงค์พันธุ์ กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทยังมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน และคาดหวังว่ายังมีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง จากการส่งออกดีต่อเนื่อง และหลังเปิดประเทศ ท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในไทยเฉลี่่ย 1 ล้านคนต่อเดือน
รวมถึงหากเศรษฐกิจจีนหลังรีโอเพ่นนิ่งหนุนความต้องการทุกกลุ่มสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ การลงทุนของบริษัทที่ยังเติบโตที่ดีอยู่สนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อาทิ จากการลงทุนโครงการปิโตรเคมีครบวงจร Long Son Petrochemicals Company Limited (LSP) เฟส 1 ที่เวียดนาม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ปัจจุบัยได้เริ่มก่อสร้างไปแล้ว 93% มีฐานลูกค้าเป้าหมายแล้วกว่า 3,000 ราย
ส่วนธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ได้มีการ Transformation จากการขายปูนซิเมนต์อย่างเดียวไปสู่การทำในเรื่องของ Green Construction, Service Solutions และ Retail Businesses หรือธุรกิจค้าปลีก SCG Home ซึ่งยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่อง
ขณะที่ธุรกิจของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตในเรื่องของ Merger & Partnership (M&P) อย่างต่อเนื่อง