พัทยาดัน “ธุรกิจไมซ์-อีเวนต์”  ฟื้นตัวรับไทยเปิดประเทศ

หนึ่งในแผนการพัฒนาเมืองพัทยาโฉมใหม่ (Neo Pattaya) ตั้งเป้าดันให้เป็น "ไมซ์ซิตี้” หรือ เมืองศูนย์กลางการประชุม สัมมนา ท่องเที่ยว และจัดแสดงสินค้าระดับโลก เพื่อสร้างเวทีการทำธุรกิจและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคโนโลยีส่งเสริมการขยายตัวของอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศไทยในพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี

ทั้งนี้ พัทยาเป็นเมืองยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมไมซ์ภาคตะวันออก ด้วยการเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และธุรกิจบริการ มีที่พักโรงแรมและศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การจัดประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก ซึ่งที่ผ่านมาพัทยามีนักเดินทางกลุ่มไมซ์เดินทางสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากภูเก็ตโดยในปี 2561 ทำรายได้จากอุตสาหกรรมไมซ์ สูงถึง 16,064 ล้านบาท แบ่งเป็นนักเดินทางต่างชาติ จำนวน169,629 คน และชาวไทย จำนวน 1,789,966 คน

ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้พัทยาได้รับความเชื่อมั่นในการเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติ 2 งาน ได้แก่ 

1.MIRA (Maintenance Industrial Robotics and Automation) และ Subcon EEC 2022 จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา 24-26 ส.ค. นี้ งานใหญ่สำหรับภาคอุตสาหกรรมในอีอีซี 

2.การประชุมนานาชาติด้านการวางแผนครอบครัว (International Conference on Family Planning : ICFP) ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลระดับโลก ที่ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ (Bill and Melinda Gates Foundation) ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2565 

นอกจากนี้จะมีการจัดงาน ไทยแลนด์ อินเตอเนชั่นแนล แอร์โชว์ แสดงความพร้อมของอุตสาหกรรมอากาศยานในอีอีซีที่วางแผนจะจัดในอีก 2 ปีข้างหน้า

รวมถึงเมืองพัทยายังมีแผนจัดคอนเสิร์ตเทศกาลดนตรีเมืองพัทยา Pattaya Music Festival 2022 ทุกวันศุกร์ตลอดเดือน ส.ค. รวมทั้งเร่งจัดกิจกรรมอื่นๆ ตลอดทั้งปี อาทิ วิ่งมาราธอน แข่งขันกีฬา เทศกาลพลุ และเทศกาลว่าวนานาชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองพัทยาทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ผู้ให้บริการขนส่ง ปลุกเศรษฐกิจเมืองพัทยาให้ฟื้นตัว สร้างรายได้ทั้งทั่วถึงรายใหญ่ รายกลาง รายเล็กและชุมชน

ซ่อนกลิ่น พลอยมี รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า บีโอไอ ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย สถาบันไทย-เยอรมัน และ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย จัดงาน Maintenance, Industrial Robotic, and Automation Event (MIRA) งานแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการบำรุงรักษาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ร่วมกับงาน Subcon EEC 2022 เป็นครั้งแรกในพื้นที่ EEC ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี 

ทั้งนี้ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่อย่างแท้จริง เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายซัพพลายเชนชิ้นส่วนอุตสาหกรรม และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตของภูมิภาค

“รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ภายในงาน MIRA และSubcon EEC ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกจะแสดงศักยภาพของ อีอีซี ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรม S-Curve และ New S-Curve และช่วยให้ผู้ประกอบการขยายขีดความสามารถในการผลิตไปสู่อุตสาหกรรมใหม่”

แม้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 พื้นที่ EEC ยังคงเป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ปี 2564 มีมูลค่าการยื่นขอรับการส่งเสริมในพื้นที่อีอีซี ทั้ง 3 จังหวัด รวมมูลค่า 220,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% และมีจำนวน 453 โครงการ เพิ่มขึ้น 7% ถือเป็น 1 ใน 3 ของขอรับการส่งเสริมการลงทุนของทั้งประเทศ

สุกัญญา อมรนุรัตน์กุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า โดยการจัดงานครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่การจัดแสดงกว่า 5,000 ตารางเมตร รวบรวมผู้จัดแสดงเครื่องจักรขั้นสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัยจัดแสดงกว่า 250 ราย โดยภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมการจับคู่เจรจาธุรกิจ, Buyers’ Village, กิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ และพื้นที่แสดงศักยภาพผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve Showcase) ซึ่งคาดว่าจะดึงดูดผู้ซื้อที่มีคุณภาพกว่า 6,000 ราย จากในพื้นที่อีอีซี รวมทั้งได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติที่ตอบรับเข้าร่วมงานจากไต้หวันและโอซากา

“การเปิดประเทศทำให้งานแสดงสินค้าเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทางอินฟอร์มา จะมีการจัดงานระดับนานาชาติอีก 4-5 งานหลังจากนี้ อาทิ งานเกี่ยวกับพลังงาน อาหาร และผลิตภัณฑ์ความงาม อีกทั้งปักหมุดจัดงาน Mira ที่สวนนงนุชอีกครั้งในเดือน ต.ค.2566”

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บระบุว่า คาดการณ์ปีงบประมาณ 2565 (ตั้งแต่เดือน ต.ค.2564 - ก.ย.2565) ไทยจะฟื้นจำนวนนักเดินทางไมซ์จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศรวม 6.13 ล้านคน สร้างรายได้รวม 28,400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นนักเดินทางไมซ์ในประเทศ 6 ล้านคน สร้างรายได้ 19,800 ล้านบาท และนักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ 1.3 แสนคน สร้างรายได้ 8,600 ล้านบาท