ดาวโจนส์บวก 145 จุดแม้ตลาดกังวลว่าอัตราว่างงานต่ำหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดาวโจนส์บวก 145 จุดแม้ตลาดกังวลว่าอัตราว่างงานต่ำหนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(1ก.ย.)เพิ่มขึ้น 145 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 145.99 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 31,656.42 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 11.85 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 3,966.85 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 31.08 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 11,785.13 จุด

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงในวันนี้

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยประเภทอายุ 2 ปีทะยานขึ้นแตะ 3.516% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2550

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 245,000 ราย

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักมากถึง 74.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 26.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนก.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.และก.ค.

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพียง 300,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 528,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.

สถาบันวิจัย CFRA ออกรายงานระบุว่า สถิติบ่งชี้ว่า เดือนกันยายนเป็นเดือนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวย่ำแย่ที่สุดของปี

ทั้งนี้ นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ดัชนี S&P 500 ร่วงลงเฉลี่ย 0.56% ในเดือนกันยายน และปรับตัวลง 56% สำหรับตลอดการซื้อขายในเดือนดังกล่าว

นอกจากนี้ CFRA ชี้ว่า ปีนี้ซึ่งเป็นปีที่มีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐ จะทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยิ่งมีแนวโน้มดิ่งลงในเดือนกันยายน เนื่องจากนักลงทุนมักทำการเทขายหุ้นอย่างหนักในเดือนกันยายนและตุลาคมในปีเลือกตั้ง ก่อนที่จะกลับเข้าซื้อหุ้นในไตรมาส 4

CFRA ยังเปิดเผยว่า เดือนกุมภาพันธ์เป็นอีกหนึ่งเดือนที่ดัชนี S&P 500 มักปรับตัวลง โดยมีสถิติร่วงลงเฉลี่ย 0.2%

ส่วนเดือนธ.ค.เป็นเดือนที่ตลาดหุ้นปรับตัวดีที่สุด โดยพุ่งขึ้นเฉลี่ย 1.6% ขณะที่เดือนพฤศจิกายนและตุลาคมปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.4% และ 0.9% ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาทุกเดือนรวมกัน พบว่า ดัชนีเอสแอนด์พี500 ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.7% นับตั้งแต่ปี 2487 หรือเกือบ 80 ปีที่ผ่านมา