ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงกว่า 20 ดอลลาร์ หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง กดดันราคาทอง
ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหลุดระดับ 2,330 ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (17 มิ.ย.) เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในฝรั่งเศสเริ่มผ่อนคลายลง
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 20.10 ดอลลาร์ หรือ 0.86% ปิดที่ 2,329.00 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.242% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศสคลายความตึงเครียด ภายหลังจากที่นางมารีน เลอ เปน ผู้นำพรรคเนชั่นแนล แรลลี (National Rally) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด กล่าวว่า ตนพร้อมทำงานร่วมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง หากพรรคคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งในครั้งนี้
ความเคลื่อนไหวของนางเลอ เปน ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล หลังจากปธน.มาครงประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พร้อมกับจัดการเลือกตั้งใหม่ซึ่งจะมีขึ้น 2 รอบในวันที่ 30 มิ.ย.และ 7 ก.ค. ขณะที่นายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสเตือนว่า ฝรั่งเศสอาจเผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน หากพรรคขวาจัดหรือซ้ายจัดชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังถูกกดดันหลังจากนายนีล แคชแครี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีแอโพลิส และนายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ต่างก็สนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้
ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพุธที่ 19 มิ.ย. เนื่องในวันจูนทีนธ์ (Juneteenth) ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการเลิกทาสในสหรัฐ