ราคาน้ำมันพุ่ง 2.85% รับโอเปกเลื่อนแผนเพิ่มการผลิต
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่ง 1.98 ดอลลาร์ รับข่าวกลุ่มโอเปกพลัสเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิต ตลาดจับตาเลืกตั้งสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (4 พ.ย.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลางและผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างใกล้ชิด
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 71.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.71% ปิดที่ 75.08 ดอลลาร์/บาร์เรล
โอเปกพลัสได้จัดการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 พ.ย.) โดยที่ประชุมมีมติเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนธ.ค.ออกไปอีก 1 เดือน เนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ โดยเฉพาะจากจีน รวมทั้งการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัส เป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันในตลาด
ก่อนหน้านี้ โอเปกพลัสมีกำหนดปรับเพิ่มกำลังการผลิต 180,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. ตามแผนการทยอยยกเลิกการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจากสำนักข่าว Axios รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลเชื่อว่าอิหร่านกำลังเตรียมโจมตีอิสราเอลจากดินแดนอิรัก โดยอาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.
ทั้งนี้ คาดว่าการที่อิหร่านวางแผนโจมตีอิสราเอลผ่านทางกลุ่ม Islamic Resistance ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในอิรักที่สนับสนุนอิหร่านนั้น ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อิสราเอลทำการโจมตีอิหร่านโดยตรงอีก
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันนี้ (5 พ.ย.) ขณะที่ผลการสำรวจจากหลายสำนักบ่งชี้ถึงคะแนนนิยมที่สูสึกันอย่างมากระหว่างคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน โดยผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะต้องได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่ต่ำกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง