โฮมโปรฯเล็งตั้งกองอสังหาฯมูลค่า3-5พันล.

โฮมโปรฯเล็งตั้งกองอสังหาฯมูลค่า3-5พันล.

โฮมโปรฯเล็งตั้งกองทุนอสังหาฯมูลค่า 3-5 พันล้านบาท คาดสรุปครึ่งปีหลัง พร้อมขายหุ้นกู้ 4-5 พันล้านบาท ในไตรมาส 2 ลงทุนขยายสาขาเพิ่ม

นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (HMPRO) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบเดิม ขนาด 3-5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสรุปได้ภายในครั้งหลังของปีนี้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดตั้งได้ บริษัทก็อาจจะพิจารณาจัดตั้งในรูปแบบกองทุนอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ หรือกองREIT อย่างไรก็ตาม ภายในไตรมาส2/56ของปีนี้บริษัทคาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 4-5 พันล้าบาท อายุ 3-5 ปี

"การที่บริษัทระดมทุนในหลายๆรูปแบบเนื่องจากบริษัทจะต้องนำเงินมาลงทุนขยายสาขาเพิ่ม เพื่อรองรับการเติบโต โดยปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 10-12 สาขา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยขยายต่อปี 8 สาขา ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนสูงประมาณ 9.8 พันล้านบาท"นางวรรณีกล่าว

เธอกล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในต่างประเทศก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะความคืบหน้าในการเปิดสาขาที่ประเทศมาเลเซียแห่งแรก ปัจจุบันมีที่ดินแล้ว และคาดว่าจะก่อสร้างเปิดดำเนินการได้ตามแผนในปี 2557 ขณะที่มีแผนจะเปิดสาขาที่ 2 ในเมืองกัวลาลัมเปอร์ เช่นกัน เพราะเป็นหัวเมืองหลักที่มีการจับจ่ายใช้สอยในอัตราที่สูง

สำหรับภาพรวมผลประกอบการในปี2556 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 15 % โดยไตรมาส 1/56 คาดว่ารายได้เติบโตในระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาการที่กำไรก่อหักภาษีและค่าเสื่อม มีอัตราลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบต้นทุนค่าใช้จ่ายแรงงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วนต้นทุนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22% และปีนี้ก็คาดว่าผลกระทบดังกล่าวยังอยู่ แต่บริษัทมีนโยบายที่จะคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่ให้เกิน 23%และจะกำหนดเป็นนโยบายระยะยาวด้วย

ทั้งนี้ เพื่อที่จะทำให้ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีก่อน

นักวิเคราะห์บล.ทิสโก้ กล่าวว่าฝ่ายวิจัยได้แนะนำให้ถือหุ้น โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 18 บาท และราคาหลังขึ้นเครื่องหมายไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผล (XD) 14.50 บาท ซึ่งเป็นการปรับราคาเหมาะสมขึ้นมา เพื่อสะท้อนการคาดการณ์ถึงการขยายสาขาที่แข็งแกร่ง การเพิ่มMEGA Home และอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิมที่ยั่งยืนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนข่าวดีไปส่วนใหญ่แล้ว เนื่องจากปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ที่ พีอีเรโช 43 เท่า

"แม้ว่าโฮมโปร ยังเป็นผู้ประกอบการที่ยังคงแข็งแกร่งในตลาดปรับปรุงบ้าน ด้วยอัตราการเติบโตผลประกอบการเฉลี่ย 26.6% ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่เรายังมองว่ามีราคาจะขยับขึ้นได้มีจำกัด ดังนั้นจึงแนะได้แค่ให้ถือหุ้น"นักวิเคราะห์กล่าว
เขากล่าวว่าการที่ผู้บริหารเปิดเผยมุมมองที่ดีต่อการขยายสาขาและคาดว่าจะมี 80 สาขาในสิ้นปี 2558 เทียบกับสมมติฐานที่ 80 สาขา ณ สิ้นปี 2562 บริษัทวางแผนที่จะเปิด 10 สาขาสำหรับปี 2556 และจะเปิดมากกว่า 8 สาขาต่อปีหลังจากปี 2556 เป็นต้นไป

ขณะที่มองว่าการขยายสาขาค่อนข้างรุกมากน่าจะได้ประโยชน์จากการก่อสร้างบ้านที่โตมากในปัจจุบัน ซึ่งจะนำมาสู่ความต้องการในการปรับปรุงบ้าน ดังนั้นจะหนุนการเติบโตในระยะยาวของบริษัท

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยได้ ปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตยอดขายสาขาเดิมขึ้นมาอยู่ที่ 4-5% จากเดิม 3-4% อย่างไรก็ตามปรับลดประมาณการผลประกอบการปี 2556 ลง 7% และปี2557 ลง12% เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่สูงขึ้น ตามการขยายสาขา และเพื่อครอบคลุมความต้องการก่อสร้างบ้าน และเจาะตลาดล่างนอกกรุงเทพ บริษัทโฮมโปรวางแผนที่จะเปิด "MEGA Home" เพื่อเป็นแบรนด์ที่แข่งขันในตลาดก่อสร้างบ้านระดับล่าง ทำให้คาดว่ามูลค่าของหุ้นโฮมโปร จะขยับได้อีก 12% ถ้าสาขาของ MEGA Home เป็นไปตามเป้าหมายที่ 20 สาขา