ปตท.เผยกำไรขายหุ้นบางจาก 4 พันล้านบาท
ปตท.คาดผลประกอบการไตรมาส 2 จะมีกำไรใกล้กับไตรมาส 1 แม้มีกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบางจาก 4 พันล้านบาท
นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท. คาดผลประกอบการไตรมาส 2/58 จะมีกำไรสุทธิใกล้เคียงไตรมาส 1/58 แม้จะมีการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายหุ้น บมจ.บางจากฯ ซึ่งมีกำไรประมาณ 4,000 ล้านบาท และการขายหุ้นธุรกิจสวนปาล์มในอินโดนีเซีย ซึ่งก็ประสบผลขาดทุนและในขณะนี้เหลือปาล์มอีก 1 -2 แปลงอยู่ในระหว่างการเตรียมการขาย
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการรวมในธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นยังไปได้ดี มีค่าการกลั่นที่ดีแต่ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.ลดลงมาก เนื่องจากราคาน้ำมันผันผวน ราคาไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นตามคาดและยังขาดทุนทั้งอัตราแลกเปลี่ยน การทำประกันความเสี่ยงของราคาน้ำมัน
ในส่วนทิศทางราคาน้ำมันคาดว่าจะไม่ปรับลดลงมากนักคาดจะอยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าอิหร่านจะมีข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจเกี่ยวกับนิวเคลียร์ได้แล้ว แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มกำลังผลิตที่คงจะชัดเจนในปลายปีนนี้ ในขณะที่มีข่าวดีเรื่องกรีซที่ตกลงเรื่องภาระหนี้สินได้ และต้องจับตามองเศรษฐกิจจีนที่หลายฝ่ายคาดว่าจะขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 7 แต่รัฐบาลจีนก็ได้ลออกมาตรการเพื่อดูแลเศรษฐกิจโดยรวมแล้วกำลังผลิตน้ำมันดิบแม้จะสูง แต่ก็ไม่เพิ่มขึ้นมากส่วนความต้องการยังคงมีอยู่
“อัพสตรีมเหนื่อยในปีนี้และกำไรลดลงเยอะ เพราะราคาน้ำมันต่ำกว่าคาดแต่ก็เป็นโอกาสในการซื้อกิจการ”นายวิรัตน์ กล่าว
นายวิรัตน์ กล่าวด้วยว่า ปตท.สผ.มีกระแสเงินสดประมาณ 3-4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภาวะราคาน้ำมันขาลงเช่นนี้จึงเป็นโอกาสที่ ปตท.สผ.จะเข้าไปซื้อกิจการในแหล่งปิโตรเลียมโดยจะเน้นในภูมิภาคใกล้ประเทศไทยและเป็นแหล่งที่ผลิตง่าย หรือ Conventional เพื่อมุ่งเน้นการผลิตต้นทุนต่ำและป้อนกลับมาในประเทศที่ไทยตัองพึ่งพาน้ำมันดิบนำเข้าร้อยละ 80 ส่วนธุรกิจ Unconventional เช่น Oil Sand ในแคนาดาขณะนี้ยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์อยู่ เนื่องจากราคาน้ำมันอ่อนตัวมากทำให้ผลตอบการลงทุนต่ำกว่าคาด จึงเลื่อนกำลังผลิตไปก่อนขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าจะขายหรือหาพันธมิตรใหม่ในการร่วมลงทุน