ประกันรุกคุ้มครองข้ามแดนหวังเห็นความร่วมมือไทย-มาเล-สิงคโปร์

นายนพดล สันติภากรณ์ กล่าวในฐานรองประธานสภาสำนักงานประกันภัยรถผ่านแดนแห่งชาติ (Council of Bureaux:COB)  ว่า ความคืบหน้าการผลักดันการประกันภัยรถผ่านแดนในภูมิภาคเอเซียน 10 ประเทศ ในการประชุมคณะทำงาน ซีโอบี ครั้งที่3 เดือน ส.ค.นี้ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ เตรียมผลักดันความร่วมมือประกันภัยระหว่างมาเลเซียและสิงค์โปร์กับไทยให้เป็นรูปธรรมชัดเจนในปีนี้และคาดว่าความร่วมมือระยะแรกจะเริ่มจากการประกันภัยพ.ร.บ.รถบรรทุกขนสินค้าผ่านแดนได้เร็วสุดในปี2560 เนื่องจากว่าได้รับความร่วมมือด้านอื่นๆในระดับอาเซียน ทั้งระบบขนส่งคมนาคมและกรมศุลกากร เป็นต้น

สำหรับข้อมูลรถผ่านแดนที่ซื้อประกันทั่วประเทศในปี2558 บริษัทพบว่ามีรายงานเข้ามาประมาณ 80,000-90,000 คัน และมีสัดส่วนรถบรรทุกเพียง 10% ซึ่งจำนวนรถบรรทุกภายใต้ข้อตกลงครั้งแรกจำนวน 60 คัน เพิ่มเป็น500 คัน ขณะที่ในแง่อัตราการเติบโตทั้งจำนวนรถและเบี้ยประกันพ.ร.บ.ภาคบังคับ แต่ละปีไม่มากเพราะมูลค่าเบี้ยไม่แพงและเป็นประกันระยะสั้นซื้อเป็นเที่ยวหรือไม่เกิน3เดือน

ขณะเดียวกันจะติดตามความร่วมมือระหว่างไทยกับลาว ตอนนี้หารือขยายรายละเอียดความคุ้มครองเพิ่มเติม จากปีที่ผ่านมาบริษัทประกันวินาศภัย 22 แห่งกับบริษัท อลิอันซ์ เจเนอรัล ลาว (AGL) ได้เริ่มรับประกันรถภาคบังคับหรือพ.ร.บ.รถทุกประเภทแล้ว ผ่านระบบการรับประกันภัยรถผ่านแดนที่เชื่อมโยงข้อมูลแบบออนไลน์เรียลไทม์ผ่านระบบแอคมี่ (ACMI) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทกลางฯ ตั้งเป้าหมายเป็นโมเดลนำร่องนำไปใช้กับกัมพูชาและเวียดนามที่ตอนนี้กำลังเร่งดำเนินการ ส่วนพม่ายังต้องรอความพร้อมเพราะยังอยู่ระหว่างการตั้งไข่ระบบประกันภัยของประเทศ

นายนพดล กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะปรับความคุ้มครองประกันพ.ร.บ.ในกลุ่มประเทศให้เหมือนกันเช่นเดียวกับกลุ่มประเทศยุโรป ยังต้องใช้เวลา เพราะความคุ้มครองของไทยอาจสูงกว่าบางประเทศที่ไม่มีประกัน หรือจ่ายเยียวยาน้อยกว่า แต่เมื่อเทียบกับบางประเทศต้องยอมรับว่าไทยยังต่ำกว่าที่คุ้มครองแบบไม่จำกัด ซึ่งการเริ่มต้นด้วยการประกัน พ.ร.บ. ถือว่าเป็นการจ่ายค่าเสียหายเยียวยาขั้นพื้นฐาน ที่จะช่วยดูแลประชาชนของกันและกัน