‘บาจา’รุกตลาดไทยดันกำไรโตเท่าตัว

‘บาจา’รุกตลาดไทยดันกำไรโตเท่าตัว

“บาจา”เปิดกลยุทธ์ขยายธุรกิจในไทย ตั้งเป้าดันกำไรโต“เท่าตัว”ใน 5 ปี ยกไทยติดอันดับท็อปเทนยอดขายสูงสุดจาก 70 ประเทศทั่วโลก

นายอเล็กซิส นาซาร์ด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทบาจา ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรองเท้าแฟชั่นแบรนด์“บาจา” เปิดเผยว่าแนวทางการดำเนินธุรกิจบาจาในประเทศไทย วาง 3 กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนธุรกิจ ด้วยเป้าหมายขยายตลาดและผลักดันกำไรเติบโต “เท่าตัว”ในระยะเวลา 5 ปี

โดย 3 กลยุทธ์ดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การพัฒนาสินค้าที่ไม่ใช่แค่รองเท้าทั่วไปเท่านั้น แต่มุ่งพัฒนาและออกแบบให้โดนใจลูกค้า ทั้งสไตล์ คุณภาพ และความสะดวกสบาย  2.การสร้างประสบการณ์การชอปปิงให้กับลูกค้า โดยจะพัฒนาจุดแข็งระหว่างการขายผ่านหน้าร้านและออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ  และ3.การตลาดที่น่าสนใจทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เพื่อทำให้“บาจา”เป็นแฟมิลี่แบรนด์ ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย

ภาพรวมการขยายสาขาภายในไทยปีนี้ค่อนข้างต่ำ โดยขยายไม่ถึง 10 สาขา ปีนี้จะมีจำนวน 276 สาขา แบ่งเป็น ร้านบาจา 251 สาขา และร้านฟุตอิน (Footin)  25 สาขา  

ภายใต้แผนการดำเนินงานช่วง 5 ปีจากนี้ จะเน้นขยายสาขาไปกับโครงการค้าปลีกรูปแบบต่างๆ และศูนย์การค้า  ทั้งนี้ ยังมองโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย จากปัจจุบันที่มีโรงงาน 1 แห่ง ที่นิคมอุตฯลาดกระบังและคลังสินค้า ขนาดพื้นที่ 6,300 ตร.ม. จ.สมุทรปราการ

ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็น 1 ใน 15 ตลาดหลักที่บริษัทให้ความสำคัญในการขยายธุรกิจและทำตลาด  โดยบาจาไทยยังติดอันดับท็อปเทน ประเทศที่ทำยอดขายสูงสุดจาก 70 ประเทศทั่วโลก มองว่าตลาดรองเท้าแฟชั่นในไทยเป็นตลาดน่าสนใจและมีศักยภาพเติบโตได้มาก จากปัจจัยจำนวนประชากรและการเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ไทยขยายตัวเฉลี่ยปีละกว่า 3.5% รวมถึงภาพรวมรายได้ของประชากรไทยขยับขึ้นสู่ระดับรายได้ปานกลาง 

ทั้งนี้ คาดว่าภาพรวมตลาดรองเท้าแฟชั่นในไทยปีนี้ จะขยายตัวได้ใกล้เคียงปีก่อนราว 1.5 – 2%  ซึ่งมีอัตราไม่สูงเนื่องจากมีผู้เล่นหลายราย ทำให้ตลาดแข่งขันกันสูง  

โดยค่าเฉลี่ยการซื้อรองเท้าของคนไทยเพิ่มขึ้น จาก 2.5 คู่ต่อคนต่อปี เป็น 4 คู่ต่อคนต่อปี  โดยแนวทางการดำเนินธุรกิจยังมุ่งพัฒนาสินค้าเดิมและเพิ่มสินค้าใหม่มากขึ้น ล่าสุดเตรียมจำหน่าย“เฮอริเทจ คอลเลคชั่น”ทั้งรุ่น“บาจา เทนนิส” และ“บาจา บุลเล็ต”มาทำตลาดต่อเนื่อง 

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทบาจา มีสัดส่วนยอดขายจากแบรนด์บาจามากกว่า 50% จากจำนวนรองเท้าหลากหลายแบรนด์ในเครือ เช่น Bata COMFIT, Power, Bubble gummers ,North Star, Marie Claire  

กลุ่มบริษัทบาจามีร้านจัดจำหน่ายกว่า 5,000 แห่ง และมีตัวแทนจำหน่ายแฟรนไชส์ราว 1 แสนแห่ง ใน 70 ประเทศทั่วโลก มีโรงงานผลิตรวมกว่า 24 แห่ง และพนักงานรวมกว่า 3 หมื่นคน ส่วน บาจา ประเทศไทย เปิดดำเนินงานมากว่า 86 ปี มีพนักงาน 1,160 คน