กลุ่มทุนจีนเล็งลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
"รมช.คมนาคม" เตรียมเปิดประมูลงานโยธา พัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 กลางปี 61 วงเงิน 5.7 หมื่นล้าน เผยนักลงทุนจากจีนสนใจลงทุนหมดทั้งโครงการ
นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มีการหารือร่วมกับตัวแทนจากผู้ประกอบการให้บริการด้านขนส่งสินค้าทางเรือ ประกอบด้วย บริษัท Global inter จำกัด ,บริษัท โหงวฮกกรุ๊ป จำกัด ,บริษัท นทลินกรุ๊ป จำกัด และบริษัทไชน่า เมอรร์ชานท์ กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการขนส่งสินค้าของรัฐบาลจีน โดยผู้ประกอบการทั้งไทยและจีน ให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ทั้งโครงการ วงเงินลงทุนรวม 1.41แสนล้านบาท แบ่งเป็น งานก่อสร้าง วงเงิน 5.7 หมื่นล้านบาท และ งานการบริหารจัดการ วงเงิน 8.4 หมื่นบ้านบาท
"ทางกลุ่มผู้ประกอบการแสดงความพร้อมด้านเงินทุนที่จะลงทุนเองทั้งหมด เพราะต้องการให้เฟส 3 เปิดให้บริการได้เร็วกว่าเป้าหมายของกระทรวง จากที่กำหนดในปี 68 เนื่องจากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เติบโตมากถึง 10% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5.8% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบริการยกขนตู้สินค้าเปลี่ยนลำ (ทราน ชิปเม้นท์)เติบโตมาก"
เบื้องต้นทางกระทรวงคมนาคมได้ชี้แจงถึงแผนลงทุน ที่รัฐบาล จะลงทุนงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพราะเป็นระบบคมนาคมที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและความมั่นคงทางด้านการขนส่งของประเทศ และรัฐบาลมีความกังวลหากให้เอกชนเข้ามาลงทุนเองทั้งหมด จึงจะเปิดให้เอกชนลงทุนเข้ามาลงทุนเฉพาะงานด้านการบริหารท่าเรือเท่านั้น
ทั้งนี้ภาคเอกชนเสนอที่จะให้มีการขยายบริการทราน ชิปเม้นท์ ให้มากขึ้น และเร่งเปิดเฟส 3 ให้เร็วขึ้น โดยจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการงานขุดร่องน้ำ คาดว่าจะเร่งให้บริการได้ช่วงกลางปี 67 ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิม 6 เดือน ที่มีกำหนดเปิดบริการในปี 68 โดยคาดรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรืออีเอชไอเอจะแล้วเสร็จ พ.ค.61
ด้านนายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการทบทวน TOR เนื่องจากมีความต้องการให้ขยายความสามารถการรองรับตู้สินค้าผ่านทางรางมากขึ้นจากเดิม 1 ล้านอีทียู เป็น 4 ล้านอีทียู คาดว่า 2-3 เดือน ร่าง TOR จะแล้วเสร็จ คาดว่าจะเปิดประมูลได้กลางปี 61 และได้ผู้รับเหมางานโยธา ธ.ค. 61 หรือ ม.ค.62 ซึ่งขณะนี้มีผู้ประกอบการจากหลายประเทศสนใจที่จะลงทุนแหลมฉบังเฟส 3 ทั้งจากกลุ่มทุนจากประเทศจีน เกาหลี และญี่ปุ่น