TACC - ซื้อ

TACC - ซื้อ

คาดการณ์กำไรปี 62 พลิกโต 36.5% จากฐานต่ำในปี 61

ประเด็นสำคัญ :

  • ปี 61 แม้รายได้ทำได้ตามคาดแต่กำไรต่ำกว่าคาดเพราะมีรายการพิเศษ : รายได้ปี 61 เท่ากับ 1,295 ลบ. ทรงตัว YoY และใกล้เคียงกับที่เราคาดการณ์ไว้ แต่มีกำไร 71 ลบ. -36.6% ต่ำกว่าที่คาดที่ราว 85 ลบ. เนื่องจากใน 4Q61 มีค่าใช้จ่ายพิเศษในการตัดหนี้สูญในบัญชีลูกหนี้ต่างประเทศที่กัมพูชาราว 20 ลบ. อย่างไรก็ดี ภาพรวมทั้งปี 61 ยอดขายภายในประเทศยังเติบโตดีจากการเติบโตตามการเปิดสาขาของ 7-11 และธุรกิจใหม่ในการขายลิขสิทธิ์ Rilakkuma แต่ยอดขายในต่างประเทศลดลงจากการหยุดขายเครื่องดื่มตรา “Zanya” ที่กัมพูชา  ขณะที่ประเด็นกดดันจากการเรียกเก็บภาษีน้ำตาลเริ่มคลี่คลายลงเนื่องจากสามารถแก้ปัญหาได้ตั้งแต่ 2Q61 ด้วยการปรับสูตรใหม่
  • ปรับคาดการณ์กำไรปี 62 จากราว 111 ลบ. ลดลงสู่ 93.3 ลบ (ลดลง 16%) +5%YoY : เราคาดการณ์รายได้ปี 62 ราว 1,441 ลบ. +11.7%YoY เติบโตตามการเปิดสาขาของ 7-11 ที่คาดว่าปีนี้จะเปิดเพิ่มราว 700 สาขาเป็น 11,688 สาขา ณ ปลายปี 62 ประกอบกับมีรายได้จากการขายเครื่องดื่มช็อกโกแลต Hershey’s เต็มปี นอกจากนี้ยังมีธุรกิจใหม่ช่วยต่อยอด New-S-Curve อย่างการขายลิขสิทธิ์ Rilakkuma เติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มลูกค้าหลักในปี 62 ของธุรกิจนี้ ได้แก่ 7-11, Major Cineplex, Nivea, Dutch mill และ Tesco Lotus อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รวมรายได้จากการกลับเข้าไปขายเครื่องดื่มตรา “Zenya” ที่กัมพูชา เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.62 ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวดยังมีความไม่แน่นอนจากการแข่งขันที่รุนแรง แต่เราจะประเมินรายได้จากธุรกิจนี้อีกครั้งภายหลังจากผ่านช่วง 1Q62 และเห็นความชัดเจน ฝ่ายวิจัยปรับลดคาดการณ์กำไรปี 62 จากราว 111 ลบ. ลงสู่ 93.3 ลบ. จากการปรับสมมติฐาน %GPM จาก 30% เหลือ 29.75% เนื่องจาก ผลิตภัณฑ์ Hershey’s ยังต้องคงสูตรเดิมไม่สามารถปรับสูตรลดปริมาณน้ำตาลได้ อย่างไรก็ตาม กำไรในปี 62 จะยังคงเติบโตสูงถึง +36.5% จากฐานต่ำในปี 61 ที่มีการรับรู้หนี้สูญทั้งจำนวนราว 20 ลบ.เข้ามาใน 4Q61
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับราคาเหมาะสมเหลือ 3.8 บาท (จากเดิม 4.60 บาท) : ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PE Ratio โดยอิง PE อย่างอนุรักษ์นิยมที่ระดับ 25 เท่า และคาดกำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.15 บาทต่อหุ้น (ลดลงจากเดิมที่ 0.18 บาทต่อหุ้น) ได้ราคาเหมาะสมที่ 3.8 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 4.6 บาท) แต่ยังมี Upside ราว 38% จากราคาปัจจุบัน จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นที่ปรับลงถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม

ความเสี่ยง

    i)ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและรุนแรง    ii) รายได้กว่า 90% พึ่งพิงร้าน 7-11   iii) ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ