บาทแข็ง-เศรษฐกิจชะลอ ฉุดท่องเที่ยวปีนี้โตต่ำเป้า
กระทรวงท่องเที่ยวฯ ประเมินรายได้ท่องเที่ยวไทยปีนี้ ปิดที่ 3.2 ล้านล้านบาท โตเพียง 4.3% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ ททท.เพิ่งปรับล่าสุด ถึง 1.8 แสนล้านบาท หลังปัจจัยลบรุมเร้า บาทแข็ง ศก.ชะลอ ชี้“ครึ่งปีแรก”รายได้รวมทั้งไทย-เทศ ขยายตัวแค่2%
นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กองเศรษฐกิจท่องเที่ยวและกีฬาได้คาดการณ์แนวโน้มภาคท่องเที่ยวไทยปี 2562 ใหม่ ว่าตลอดปีนี้จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 4.3% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2.1 ล้านล้านบาท และรายได้จากคนไทยท่องเที่ยวในประเทศ 1.1 ล้านล้านบาท
นับเป็นตัวเลขรายได้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ล่าสุดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ถึง 1.8 แสนล้านบาท หลังจาก ททท.ปรับลดเป้าหมายรายได้ท่องเที่ยวไทยปีนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.38 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากปีที่แล้ว จากเดิม ททท.เคยตั้งเป้าไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่แล้ว หรือคิดเป็นเม็ดเงินลดลงจากเป้าเดิม 2 หมื่นล้านบาท
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย.) พบว่าไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 1.55 ล้านบาท ขยายตัว 2% แบ่งเป็นจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทยรวม 19.6 ล้านคน เพิ่มขึ้นเพียง 0.7% สร้างรายได้ 1.01 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนตลาดคนไทยเที่ยวมี 76 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 2% สร้างรายได้ 5.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และเมื่อดูเฉพาะสถิติเดือนล่าสุด เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 2.9 ล้านคน สร้างรายได้ 1.44 แสนล้านบาท
นายโชติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังต้องเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด เพราะการเดินทางท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงความกังวลและความเชื่อมั่นในเชิงจิตวิทยา แต่จากสถานการณ์ที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีแรก พบว่าอัตราการเติบโตด้านการท่องเที่ยวยังอยู่ในภาวะทรงตัว ประกอบกับตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นมา เข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) ทั้งนี้หากประเมินในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวจะกลับมาเติบโต เนื่องจากเข้าสู่ระยะฤดูกาลของการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ประกอบรัฐบาลใหม่อาจมีมาตรการต่างๆ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
“ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยเสี่ยง ประกอบด้วยการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการเดินทางของท่องเที่ยว การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวที่รุนแรง เช่น การดึงดูดนักท่องเที่ยวยุโรปของประเทศตุรกี และการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนของประเทศญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม และการแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินบาท แต่ยังมีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ มาตรการต่างๆ เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจากรัฐบาลใหม่ การเข้าสู่ไฮซีซั่นของท่องเที่ยวไทย การคลี่คลายจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไตรมาส 4 และความมั่นคงทางการเมืองและความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ”