“เจเคเอ็น”ขนทัพคอนเทนท์ หวังขึ้นแท่น"ผู้นำอาเซียน"
เจเคเอ็นฯ ลงทุน 800-1,000 ล้านบาทต่อปี ระดมซื้อคอนเทนท์ต่างประเทศ เจาะทีวีทุกช่อง เดินหน้าเปิดตลาดโอทีที เพิ่มชั่วโมงออกอากาศรายการต่างๆ หวังขยับสัดส่วนรายได้
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนเจเคเอ็นฯ ให้ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำ” อุตสาหกรรมคอนเทนท์ระดับภูมิภาคอาเซียน โดยกลยุทธ์ทำตลาดจะประกอบด้วย 3 แนวทาง ได้แก่ 1.การนำคอนเทนท์ไทยส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้นำคอนเทนท์ละครของช่อง 3 ซึ่งเป็นพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทน์เพียงรายเดียว(เอ็กซ์คลูซีฟ)ไปเจาะตลาดต่างประเทศ ทั้งอาเซียน เกาหลี และไตรมาส 4 คาดว่าจะปิดการเจรจากับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่น เพื่อออกอากาศทางดิจิทัลทีวี รวมถึงอินโดนีเซีย โดยปีนี้นำละครมาเสริมทัพ 130 เรื่อง จากปีก่อน 70 เรื่อง และจำหน่ายไปราว 30-40 เรื่อง
“เราต้องการปั๊มรายได้ต่างประเทศให้โตขึ้น และปัจจุบันคอนเทนท์ไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาคุ้มค่า และการเปิดตลาดเกาหลีใต้ได้ถือเป็นใบเบิกทางในการขยายตลาดภูมิภาคมากขึ้น”
2.บริษัทใช้งบลงทุนประมาณ 800-1,000 ล้านบาทต่อปี ต่อเนื่อง 3 ปี นำคอนเทนท์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อออกอากาศผ่านทีวีดิจิทัลช่องต่างๆ และเดินหน้าใช้กลยุทธ์ “ซุป’ตาร์มาร์เก็ตติ้ง” เจาะคนดู ล่าสุดจัดงาน “JKN Mega Showcase 2019 : Diamond Pink The Love of Content” เปิดหน้าหนังลขสิทธิ์ ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์มาจำหน่ายในไทย และ 3.การผนึกพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อผลิตออริจินัล คอนเทนท์ร่วมกัน เช่น ซีรี่ส์ สารคดี ฯ เพราะสามารถขายและทำตลาดได้กว้างขวาง โอกาสสร้างรายได้จึงมีสูง
ขณะเดียวกันปีนี้ถึงปีหน้า บริษัทจะให้ความสำคัญกับการนำคอนเทนท์ไปออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มอินเตอร์เน็ต(โอทีที)ด้วย ประเดิมไลน์ทีวี เป็นออฟฟิศเชียลชาแนลแบบเอ็กซ์คลูสีพของเจเคเอ็น และกำลังเจรจากับแอ๊พพลิเคชั่นออนไลน์สตรีมมิ่งรายอื่นเพิ่ม 3 ราย เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้กลุ่มโอทีทีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 25%
“โอทีที เป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้เติบโตสูง โดยขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมงที่นำเสนอคอนเทนท์ผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว จะปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจุบันซีรี่ส์ที่ออกอากาศบนไลน์ทีวีทำรายได้ราว 5% ของแพลตฟอร์มโอทีทีทั้งหมด แต่เราคุยกับพันธมิตรเพิ่มและคาดว่าจะเปิดตัวไตรมาส 4”
ส่วนภาพรวมรายได้ในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อนรายได้ 1,400 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกมีรายได้ 870 ล้านบาท กำไรสุทธิ 150 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้บริษัทมาจากตลาดในประเทศ 60-65% ต่างประเทศ 30% และโฆษณา 5-10%
เขากล่าวอีกว่า ปีนี้จะขยายธุรกิจเจเคเอ็น ลิฟวิ่ง เน็ตเวิร์ค ซึ่งตั้งมา 5 ปี มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคบริโภค(FMCG) ประเดิมสินค้าน้ำหอมและโลชั่นบำรุงผิวภายใต้แบรนด์ “Instinct” เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายเกย์ เลสเบี้ยน ไบเซ็กชวล และบุคคลข้ามเพศหรือ LGBT พร้อมกันนี้จะผนึกกับยักษ์ใหญ่โฮมชอปปิ้ง เพื่อทำตลาดด้วย
“สินค้าใหม่จะขายเฉพาะช่องทางโฮมชอปปิง โดยไม่มีการทำตลาดหน้าร้านหรือช่องทางค้าปลีก”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นักเดินทาง 'จีน' ขาลง ฉุดท่องเที่ยว 'อาเซียน'
-อาเซียนแซงหน้าสหรัฐฯ ขึ้นเป็นคู่ค้าอันดับสองของจีน
-'ดับเบิลยูอีเอฟ' จับมือไทย ปั้นศก.ดิจิทัลอาเซียน
-'เวียดนาม' ผงาดเปิดโรงไฟฟ้าโซลาร์ใหญ่สุดในอาเซียน