SFLEX จ่อขายไอพีโอปลายปีนี้ ระดมทุนขยายเครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์

SFLEX จ่อขายไอพีโอปลายปีนี้ ระดมทุนขยายเครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์

SFLEX เตรียมขายหุ้นไอพีโอปีนี้ ระดมทุนซื้อเครื่องจักรผลิตบรรจุภัณฑ์ คาดใช้เต็มกำลังการผลิตไตรมาส 3/64 นักวิเคราะห์ประเมินช่วงราคาเหมาะสม 5.4 - 6.1 บาท

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFLEX คาดกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และกำหนดวันจองซื้อหุ้นช่วงต้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันคาดจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน ธ.ค.นี้

ขณะที่เตรียมเดินสายนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน (โรดโชว์) เริ่มจากวันที่ 29 พ.ย.ที่ อ.หาดใหญ่, 2 ธ.ค.ที่กรุงเทพฯ และ 3 ธ.ค.ที่ จ.เชียงใหม่ โดยเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากธุรกิจของ “สตาร์เฟล็กซ์” เป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภค และบริโภค โดยเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ให้กับคอนซูมเมอร์โปรดักส์ระดับโลก เช่น Unilever และ LION ประเทศไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ 9 แห่ง ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่าย ประเมินช่วงราคาเหมาะสมไว้ที่ 5.4-6.1 บาท

ด้าน นายปรินทร์ธรณ์ อภิธนาศรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีโครงการที่จะลงทุนผลิตฟิล์มประเภทที่ใช้ในการปิดผนึกขึ้นรูป (Sealant) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน โดยปัจจุบันบริษัทฯ สั่งซื้อจาก Supplier การลงทุนของบริษัทฯ จะทำให้สามารถผลิตฟิล์มใช้เองเท่านั้น ซึ่งจะสามารถทดแทนการสั่งซื้อจาก Supplier ได้บางส่วน ซึ่งโครงการนี้จะดำเนินการที่โรงงาน 2 แพรกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดต้นทุนการผลิตซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ ได้อย่างเต็มที่ ในเบื้องต้นคาดว่าวงเงินที่ใช้ทั้งสิ้นประมาณไม่เกิน 150 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และการจัดเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสิ่งระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility) ต่างๆ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ ระบบเครน แบ่งเป็นค่าเครื่องจักรไม่เกิน 137 ล้านบาท และค่าระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เกิน 13 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้

นอกจากนี้ มีแผนลงทุนสร้างคลังสินค้าขนาด 5,000 ตารางเมตร บนที่ดินเปล่าด้านข้างโรงงาน เพื่อทดแทนการเช่าคลังสินค้าในปัจจุบัน บริษัทฯ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 52 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างคลังสินค้าในไตรมาส 1 ปี 2563  และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณไตรมาส 3 ปี 2563

"ที่ผ่านมา การเติบโตของบริษัทอยู่ที่ปีละประมาณ 7-9% เทียบกับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% ต่อปี"