'อิตัลไทย' เกาะไฮสปีดเทรน ดันธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก

'อิตัลไทย' เกาะไฮสปีดเทรน  ดันธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก

“อิตัลไทย” หวัง ไฮสปีดเทรน-อู่ตะเภา ที่ "ไอทีดี" ร่วมประมูลจะช่วยดันยอดขายในธุรกิจเครื่องจักรกลหนักปีหน้า

กลุ่มอิตัลไทยที่มีธุรกิจหลักใน 2 กลุ่ม คือ 1.ธุรกิจเครื่องจักรกลหนัก รับเหมางานวิศวกรรมและก่อสร้างแบบครบวงจร 2.ธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ ครอบคลุมโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ซึ่งกลุ่มอิตัลไทยพยายามรักษาระดับการแข่งขันในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยจะทำให้ทุกกลุ่มธุรกิจของอิตัลไทยมีความเข้มแข็งเพื่อสู้กับแบรนด์ระดับโลก หลังจากในช่วง 60 ปี ที่ผ่านมาสามารถก้าวข้ามอุปสรรคหลายอย่างมาได้

ยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อิตัลไทย จำกัด กล่าวว่า โครงการรัฐสำคัญที่จะมีผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับเหมาก่อสร้างในปี 2563 คือ 1.โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) 2.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก 3.โครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2

รวมถึงการผลักดันเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรับเหมาก่อสร้างในปี 2563 เพราะการประมูลบางโครงการเรียบร้อยและมีการลงนามสัญญาร่วมลงทุนแล้ว โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปร่วมลงทุนกับกลุ่มซีพีในบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด ในสัดส่วน 10%

ทั้งนี้ ทำให้กลุ่มอิตัลไทยมีโอกาสที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ไปกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งโครงการอยู่ระหว่างการเตรียมพื้นที่ก่อสร้างและอีกระยะจะเริ่มมีการก่อสร้าง ซึ่งตามแผนจะก่อสร้างเสร็จประมาณ 5 ปี ระยะทาง 220 กิโลเมตร จะทำให้เกิดการก่อสร้างจำนวนมากหลังจากนี้ โดยกลุ่มอิตัลไทยอยู่ระหว่างหารือเพื่อจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักสำหรับการก่อสร้าง เช่น รถขุด รถยก 

นอกจากนี้ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกที่อยู่ในขั้นตอนการประมูล โดยบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปร่วมถือหุ้นกิจการร่วมค้าธนโฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร และหากชนะการประมูลก็จะเป็นปัจจัยบวกกับกลุ่มอิตัลไทยด้วย

การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซีจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจบริการในหลายเมือง เช่น พัทยา โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาจะมีการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีขนส่งมวลชน (ทีโอดี) รวมทั้งต่อไปจะมีการรถไฟฟ้ารางเบา (โมโนเรล) จากสถานีรถไฟความเร็วสูงพัทยาเข้ามาที่ตัวเมืองพัทยา จะมีส่วนสนับสนุนให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

รวมทั้งในอนาคตเมื่อมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครบทั้งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ท่าเรือมายตาพุดเฟส 3 สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รวมแล้วในช่วง 5 ปี ข้างหน้าจะเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานถึง 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งจะมีส่วนจะทำให้พัทยาเป็นเมืองธุรกิจมาขึ้น เพราะจะมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุนหรือตั้งสำนักงานในอีอีซี รวมทั้งมีการประชุมและสัมมนามากขึ้นและทำให้พัทยาสามารถแข่งขันในธุรกิจบริการกับกรุงเทพฯ ได้

กลุ่มอิตัลไทยมองว่าเมื่อการพัฒนาอีอีซีมีความชัดเจนขึ้นจะทำให้พัทยาเป็นรองรับธุรกิจบริการระดับพรีเมียม ส่วนระยองจะเป็นพื้นที่รองรับธุรกิจบริการในกลุ่มเซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ เพื่อรองรับกลุ่มที่มาทำงานในระยองวันจันทร์-ศุกร์

ทั้งนี้ ในพื้นที่พัทยาที่กลุ่มอิตัลไทยมีโรงแรมอมารีพัทยา และในเดือน มี.ค.2563 กำลังจะเปิดโรงแรมโอโซ (OZO) ระดับ 3 ดาวมาเปิดในพื้นที่เดียวกับโรงแรมอมารี 400 ห้อง

157511794562

หากพิจารณาสัดส่วนรายได้ของกลุ่มอิตัลไทยในปัจจุบัน ถือว่า กลุ่มธุรกิจเครื่องจักรกลหนักและรับเหมาทางวิศวกรรมยังมีบทบาทสำคัญ มีสัดส่วนรายได้ 60% โดยส่วนใหญ่ยังเป็นรายได้ที่ทำธุรกิจกับบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)

ในขณะที่รายได้จากกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมบริการที่ 40% ในขณะที่ผลดำเนินงานปี 2562 จะยังมีกำไรเพียงแต่ชะลอตัวลงจากปีก่อน และในปี 2563 ที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน เพราะมีโครงการลงทุนภาครัฐหลายโครงการยังไม่เกิดการลงทุนก่อสร้างจริง แต่คาดว่าจะรักษาระดับกำไรไว้ได้ 

ส่วนในปี 2563 ยังคงมีการขยายธุรกิจต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับการเติบโต โดยในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ จะมีการประกาศการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มอิตัลไทยกับบริษัททาดาโน ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มอิตัลไทยเป็นดีลเลอร์ให้ แต่หลังจากนี้จะเป็นพันธมิตรร่วมลงทุน โดยเมื่อซื้อสินค้าแบรนด์นี้กับกลุ่มอิตัลไทยก็เหมือนกับซื้อจากบริษัทแม่ที่จะมีบริการหลังการขายที่ดี

นอกจากนี้ ในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างกำลังมีปัจจัยเสี่ยงจากการที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างต่างชาติเข้ามารับงานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทจีนที่ได้รับงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายโครงการในช่วงที่ผ่านมา 

รวมทั้งการก่อสร้างในอีอีซีจะมีบริษัทรับเหมาก่อสร้างจากจีนได้รับด้วยเช่นกัน รวมถึงการเข้ามารับงานก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งบริษัทรับเหมาก่อสร้างจีนที่ออกมารับงบในต่างประเทศจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนมากและได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน