คลังดันเปิด 'กระดานหุ้นไมโครเอสเอ็มอี' ปลดล็อคเงินทุนธุรกิจฐานราก

คลังดันเปิด 'กระดานหุ้นไมโครเอสเอ็มอี' ปลดล็อคเงินทุนธุรกิจฐานราก

คลังเปิดก๊อกแหล่งเงินทุนอุ้มธุรกิจฐานราก ดัน "ตลาดหุ้นแห่งใหม่" ธ.ก.ส.เตรียมเงินสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01% ขณะที่ "ออมสิน" กู้หาบเร่แผงลอย 2.5 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 0.5% ธอส.เปิดลงทะเบียน "บ้านดีมีดาวน์" วันนี้

รัฐบาลยังเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานราก โดยล่าสุดมีแนวคิดผลักดัน "ตลาดหุ้นแห่งใหม่" ซึ่งตั้งเป้าหมายเป็นแหล่งระดมทุนของธุรกิจขนาดเล็ก หรือ "ไมโครเอสเอ็มอี" ช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้สามารถเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปใช้ขยายกิจการ โดยที่เงื่อนไขการลงทุนและการซื้อขายผ่านกระดานหุ้นนี้จะใกล้เคียงกับวิธีการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แต่อาจมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในต้นปีหน้า

157606557027

นายอุตตม​ สาวนายน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนาเศรษฐกิจฐานรากพลิกความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย จัดโดยหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน ว่า กระทรวงการคลังจะผลักดัน​ตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่​สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก​ หรือวิสาหกิจชุมชน คาดว่าในต้นปีหน้าจะได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ และเปิดตัวตลาดดังกล่าวได้

"พูดง่ายๆ ว่าเป็นการเปิดกระดานลงทุนใหม่ แต่ให้กับผู้ประกอบการตัวเล็ก ให้มีพื้นที่ในการหาแหล่งเงินลงทุนใหม่เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายกลาง ซึ่งลักษณะการเทรดจะคล้ายกัน แต่เงื่อนไขต้องแตกต่าง เพราะผู้ประกอบการรายเล็กยังมีความแข็งแกร่งไม่เท่ารายใหญ่ แต่ก็มีการร่วมทุน Venture cap ได้ด้วย ซึ่งมองว่าตลาดทุนที่จะสร้างมาใหม่นี้ เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ ที่จะทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กเติบโตได้มากขึ้น"

ทั้งนี้การสร้างตลาดทุนสำหรับผู้ประกอบการตัวเล็กนั้น มีขึ้นมาในหลายประเทศที่ประสบความสำเร็จ อาทิ จีน และสิงคโปร์ ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการตัวเล็กเข้ามาเทรดจำนวนมาก

157605485395

  • ศก.เข้มแข็งต้องเริ่มจากฐานราก

เขากล่าวว่า​ การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เข้มแข็งจะต้องเริ่มจากความเข้มแข็งภายในประเทศ​ ซึ่งจะต้องเริ่มจากเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ​ มาตรการหนึ่งที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจฐานรากก็คือ​ การสนับสนุนด้านเงิน​ทุน โดยกระทรวงการคลังได้หารือกับตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย​ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสภาธุรกิจตลาดทุนแห่งประเทศไทย​ เพื่อที่จะสร้างตลาดใหม่​ ซึ่งจะเป็นกระดานหุ้นใหม่​ นอกเหนือจากกระดานหุ้นปกติ และ​ MAI เพื่อเป็นแหล่งระดมทุนให้กับธุรกจของชุมชน​ มีความแข็ง​แรงและมีโอกาสเติบโต​

"แพลตฟอร์มดังกล่าวจะมีเงื่อนไขที่ผ่อนปรนกว่ากระดานหุ้นปกติ​ เพื่อสนับสนุนให้คนตัวเล็กสามารถเข้ามาได้​ และเป็นแหล่งรวมธุรกิจขนาดเล็ก​ เพื่อให้​ กองทุนร่วมทุนต่างๆที่สนใจเข้ามาลงทุน​ ส่วนการจะเปิดให้เทรดนั่นจะเป็นขั้นตอนต่อไป"

นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง​และตลาดหลักทรัพยแห่งประเทศไทย​ จะร่วมทำในเรื่องการให้ความรู้ทางการเงิน​ การนำเทคโน​โลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากซึ่งรวมถึงการค้าออนไลน์และการจัดการบัญชีเบื้องต้น

เขากล่าวอีกว่า​ การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก​ จะต้องสร้างกลไกสามเรื่อง คือ​ 1.การสร้างโอกาสทางอาชีพ​ ด้วยการสร้างองคความรู้ให้ชุมชน​ เช่นการนำเทคโนโลยีใหม่มาถ่ายทอดให้ชุมชน 2.การสร้างโอกาสเข้าถึงตลาด​ ไม่ว่าจะเป็นการจัดสรรหาพื้นที่ตลาดค้าขายให้ และรวมถึงการส่งเสริมการค้าบนออนไลน์ 3.การสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน​ ซึ่งกระทรวงการคลังจะใช้สถาบันการเงินของรัฐสนับสนุน

  • ธกส.เตรียมปล่อยกู้ชุมชนสร้างไทย

ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้เตรียมเงินสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย วงเงิน 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี ระยะเวลา 3 ปี หรือตั้งแต่ 1 ธ.ค.2562-30 พ.ย.2565 เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจรายเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

157605417286

ขณะเดียวกัน ธ.ก.ส.จะเน้นการพัฒนาใน 3 ด้าน ด้านเกษตรกรรม เช่น กลุ่มธุรกิจการผลิตบริการและรวบรวม ด้านท่องเที่ยว เช่น กลุ่มที่พักโฮมสเตย์ อาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มนำเที่ยวและขนส่ง และผลิตภัณฑ์ชุมชน และด้านอุตสาหกรรมการแปรรูปและโลจิสติกส์ โดยตั้งเป้าขยายผลให้ได้ 928 ชุมชนในสิ้นปีนี้ และเป็น 9,000 ชุมชนในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันธ.ก.ส.มีเกษตรกรลูกค้าอยู่ 6.17 ล้านครัวเรือน สมาชิกกลุ่มเกษตรกร 396,165 กลุ่ม ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเกษตร 442,887 ราย

  • 'ออสสิน'ดันสินเชื่อประชารัฐสร้างไทย

ขณะที่ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารได้เตรียมแหล่งเงินทุนสินเชื่อประชารัฐสร้างไทย ธนาคารประชาชนวงเงินสินเชื่อ 2,500 ล้านบาท กู้ได้รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอย ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้น้อย มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ โดยสามารถใช้บุคคล หรือบริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)ค้ำประกันได้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 5 ปี

157605434931

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารช่วง 11 เดือนสูงถึง 185,000 ล้านบาท มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะสามารถปล่อยสินเชื่อตามเป้าหมายที่ 203,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อเดือนปล่อยสินเชื่อได้ไม่ต่ำกว่า 18,000 ล้านบาท เนื่องจากมีมาตรการของภาครัฐที่เข้ามาช่วยผลักดันตลาดอสังหาฯให้เติบโต โดยเฉพาะโครงการบ้านดีมีดาวน์ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com วันแรกวันนี้ (11 ธ.ค.2562) ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป 

"บ้านดีมีดาวน์" เป็นโครงการที่รัฐต้องการช่วยลดภาระให้คนอยากมีบ้าน 50,000 บาทต่อราย แก่ประชาชน 100,000 รายแรก ที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ คุณสมบัติ คือ มีตัวตนตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง และอยู่ในระบบฐานภาษี มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี โดยซื้อที่อยู่อาศัยใหม่จากผู้ประกอบการและได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดทะเบียนนิติกรรมจำนองระหว่างวันที่ 27 พ.ย.2562- 31 มี.ค.2563

ทั้งนี้ ภายหลังได้รับการยืนยันจากระบบของกระทรวงการคลังว่าเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ ระบบจะส่งข้อมูลยืนยันมาให้ ธอส. โอนเงินให้แก่ประชาชนผ่านระบบพร้อมเพย์ตามบัญชีที่ผูกกับหมายเลขประจำตัวประชาชนต่อไป

"โครงการบ้านดีมีดาวน์ถือเป็นโครงการที่ช่วยลดภาระให้แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีคุณสมบัติและปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ นอกจากนี้ หากเป็นผู้ซื้อที่อยู่อาศัยใหม่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทจากผู้ประกอบการ ยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นที่รัฐบาลมอบให้เพิ่มเติม ทั้งการลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดจำนองเหลือเพียงประเภทละ 0.01% และยังมีสิทธิ์ได้รับมาตรการสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 2.5% ต่อปี คงที่ 3 ปีแรกของ ธอส. อีกด้วย" นายฉัตรชัยกล่าว