‘ซีเจซีฟู้ด’ สยายปีก ‘จัมโบ้’ ดึง‘อาหารจีน-ฮ่องกง’เสริมพอร์ต
ท่ามกลางกระแสดิสรัปธุรกิจร้านอาหารทั้งจากกำลังซื้อชะลอตัว กระแสดีลิเวอรี่ หรือบริการส่งตรงถึงบ้านฟีเวอร์ ลูกค้าเลือกรับประทานของชอบได้โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
ท้าทายบรรดาผู้ประกอบการไม่น้อย!หากแต่ศักยภาพประเทศไทยด้วยสถานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางมาเยือนกว่า 40 ล้านคนต่อปี เป็นขุมทรัพย์!ที่ร้านซีฟู้ดคิวยาวแบรนด์ดังจากสิงคโปร์จัมโบ้ ซีฟู้ด (Jumbo Seafood)หนึ่งในแม่เหล็กทางด้านกินดื่ม ที่มีเมนูซิกเนเจอร์ยอดฮิต Award-Winning Chili Crab และ Signature Black Pepper Crabรั้ง“ท็อปลิสต์”ที่นักชิม นักท่องเที่ยวชาวไทยและนานาชาติอยากจะลิ้มลองเมื่อไปเยือน!! มองเป็นโอกาสธุรกิจหลังปักหมุดสาขาแรกในเมืองไทย ที่ ไอคอนสยามมีแผนแจ้งเกิดสาขา 2 สวนกระแสเศรษฐกิจ!!
เด็ด ชินสุภัคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี เจ ซีฟู้ด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเจ้าของแฟรนไชส์ร้านซีฟู้ดสไตล์สิงคโปร์ “จัมโบ้ ซีฟู้ด” จากประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า เตรียมเปิดบริการ จัมโบ้ ซีฟู้ด สาขา 2 ที่สยามพารากอน พื้นที่ราว 600 ตร.ม. ช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า รองรับโอกาสทางการตลาดของไทยซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจร้านอาหารยังสามารถขยายธุรกิจสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง
“แม้ร้านอาหารจะมีแนวโน้มถูกดิสรัปจากบริการดีลิเวอรี่มากขึ้น แต่เชื่อว่าทุกร้านอาหารที่อร่อยมีโอกาสโต ยิ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก เป็นที่อยากลิ้มลองของนักเดินทางเมื่อมาเยือนประเทศนั้นๆ”
แนวทางการขยายธุรกิจร้านอาหารของบริษัทส่วนหนึ่งอิงไปกับตลาดนักท่องเที่ยว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาแบรนด์ "ร้านอาหารจีน-ฮ่องกง" จากฮ่องกง เพื่อนำมาเปิดตลาดในเมืองไทย คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า
“อาหารจีนที่เป็นเชนในไทยยังมีน้อย เราเป็นตลาดนักท่องเที่ยวจีน นอกจากเจาะลูกค้าท้องถิ่นและนานาชาติแล้ว นักท่องเที่ยวจีนยังเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งหากพำนักยาวเป็นสัปดาห์ก็ต้องอยากกินอาหารจีนเหมือนคนไทยท่องเที่ยวต่างประเทศอาจจะมี 1 มื้อที่ขอรับประทานอาหารไทย”
อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจจัมโบ้ ซีฟู้ด สาขา 2 สยามพารากอน จะมีการปรับกลยุทธ์ทางด้านเมนู เช่น เน้น“เซ็ตลันซ์”หรือชุดอาหารกลางวัน มากขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับทำเลและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวไทยและนักท่องเที่ยวในการใช้บริการย่านใจกลางเมือง ที่ต้องการความรวดเร็ว
เป็นการนำประสบการณ์และการเรียนรู้จากการเปิดบริการสาขาแรก “ไอคอนสยาม” ตลอด 1 ปีที่นำมาพัฒนา ปรับเมนูให้สอดรับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงมากขึ้น อาทิ วีคเดย์ มื้อเที่ยง ลูกค้าต้องการเมนูเซ็ต เร็ว ราคาย่อมเยาว์ คุ้มค่า ยกตัวอย่าง เดือน พ.ย. จัมโบ้ซีฟู้ดได้จัดเซ็ตพิเศษสำหรับ 4 ท่านเป็นเมนูปูและลอปสเตอร์ อาทิ Award-winning chilli crab meat sauce with deep fried mini buns Set ราคา 1,199 บาท Live Boston Lobster Set ราคา 1,999 บาท และ Live Dungeness or Mud Crab Set ราคา 2,499 บาท แต่ละเซ็ตจะมี 5 เมนูให้เลือกทำให้ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลายได้มากขึ้น แต่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ต่ำลงนอกจากนี้ มีเมนูไซส์เล็กลง รวมทั้งโปรโมชั่นครบรอบ 1 ปี “ปูอลาสก้า” ลดราคา 25% จากขีดละ 440 บาท เหลือ 330 บาท
“ลูกค้าส่วนใหญ่ตั้งใจมาจัมโบ้ซีฟู้ดมีอัตราการเข้าใช้บริการเฉลี่ย 2-3 รอบต่อวัน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งการปรับเมนู จัดเซ็ตพิเศษต่างๆ ช่วยเพิ่มปริมาณลูกค้าหมุนเวียนในวันธรรมดาได้มากขึ้น อนาคตหากรถไฟฟ้าสายสีทองเปิดให้บริการเชื่อว่าจะยิ่งหนุนทราฟฟิกไอคอนสยามและจัมโบ้ซีฟู้ด”
“จัมโบ้ ซีฟู้ด" เปิดดำเนินการครั้งแรกในสิงคโปร์เมื่อปี2530 ปัจจุบันมี 13 สาขาทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ เซี่ยงไฮ้ ไต้หวัน และเวียดนาม และมียอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี โดยจัมโบ้ ซีฟู้ดสาขาไอคอนสยาม ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท บนพื้นที่ 700-800 ตร.ม.ถือเป็นร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดร้านหนึ่งของไอคอนสยาม รองรับลูกค้าได้ 250-300 ที่นั่งพร้อมทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำเจ้าพระยา และรสชาติเอกลักษณ์แบบเดียวกับต้นตำรับที่สิงคโปร์ โดยนำเข้าซอสครบ 12 ชนิด และอยู่ระหว่างพัฒนา “ซอสสูตรไทย”
เด็ด กล่าวอีกว่า ยังเตรียมรุกธุรกิจบริการจัดเลี้ยง หรือ แคทเทอริ่ง ต่อยอดจาก “จัมโบ้ซีฟู้ด” สร้างความแตกต่างจากตลาดและคู่แข่งด้วยเมนูซีฟู้ด รองรับการขยายตัวของตลาดประชุมสัมมนาต่างๆ เป็นหนึ่งในช่องทางเพิ่มรายได้!!