ผวาสงคราม! หุ้นปิดเช้าดิ่ง 23.13 จุด

บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงเช้าวันนี้ (8ม.ค.) เป็นไปอย่างเงียบเหงา นักลงทุนพากันเทขายหุ้นออกมา เพื่อลดความเสี่ยง เนื่องจากวิตกกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างสหรับและอิหร่าน จะบานปลายเป็นสงคราม หลังจากอิหร่านตัดสินใจยิงขีปนาวุธ หลายสิบลูก ถล่มฐานทัพของสหรัฐฯในตะวันออกกลางช่วงเช้ามืดวันนี้

เหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อดัชนีหุ้นเอเชียปรับลดลงถ้วนหน้า รวมถึงตลาดหุ้นไทย ที่เปิดตลาดเช้านี้ลดลงทันที 15.41 จุด จากนั้นก็มีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีลงไปต่ำสุดที่1,557.25 จุด ลดลง 27.98 จุด และ สูงสุดที่ 1,572.03 จุด ลดลง 13.20 จุด และปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ 1,562.10 จุด ลดลง 23.13 จุด หรือ 1.46% มูลค่าการซื้อขาย 35,355 ล้านบาท

5 อันดับหุ้นที่ซื้อขายสูงสุดช่วงเช้าได้แก่ 1.PTTEP 135 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท 2.BAM 21.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท 3. PTT 47.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง 4.GPSC 89 บาท ลดลง 0.50 บาท และ 5.KBANK 140 บาท ลดลง 3 บาท

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยผ่านรายการ NEWSROOM ห้องข่าวเศรษฐกิจ ทางเนชั่นแชนแนลช่อง 22 เช้าวันนี้ว่าอยากให้นักลงทุนพิจารณาข้อมูลให้ดีว่าผลกระทบดังกล่าว นั้นกระทบกับแต่ละประเทศต่างกันอย่างไร และกระทบกับบริษัทในแต่ละอุตสาหกรรมเหมือนกันแตกต่างอย่างไร เพราะ ผลกระทบต่างกัน

ทั้งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง เพราะ นักลงทุนหันไปลงทุนสินทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินสด แต่ตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องสูง และ ฐานนักลงทุนหลากหลาย ถ้าราคาหุ้นร่วงถึงจุดหนึ่ง ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์ได้เร็ว ซึ่งนักลงทุนต้องติดตามข้อมูล บทวิเคราะห์ให้ดีว่าดัชนีฯตอบรับข่าวดังกล่าวมากเกินไปหรือไม่ หรือมีการซื้อขายไม่สมเหตุผลหรือไม่

'ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการติดตามเหตุการณ์ต่อเนื่อง และมีมาตการต่างๆที่คอยออกมาดูและมีการกำกับดูแล อยู่แล้ว นักลงทุนไม่ต้องกังวลไม่ว่าเรื่องการทำงาน ระบบการซื้อขาย สามารถรองรับบการเคลื่อนไหวปริมาณการซื้อขายได้”