ท้ารบ! ‘แฮปปี้ กรุ๊ป’ ชิงที่ 6 เค้กทีวีโฮมชอปปิงหมื่นล้าน
ตราบที่ “ทีวีดิจิทัล” ยังมีสล็อตเวลาออกอากาศเหลือ และธุรกิจทีวีโฮมชอปปิงยังคงเบ่งบาน เพราะการจ้อหน้าจอขายสินค้าเข้าถึง(Reach)ผู้บริโภคมหาศาล ผู้เล่นหน้าใหม่ ก็พร้อมเปิดศึกชิงส่วนแบ่งทางการตลาด
ทีวีโฮมชอปปิงปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจ กำลังซื้อจะซบเซาไปบ้าง แต่ตลาดนี้ยังเติบโตได้ 7-8% ไม่บูมเหมือนก่อน แต่ไม่ตก!
“ตลาดหมื่นล้าน สะท้อนกำลังซื้อมหาศาล และแม้เศรษฐกิจ กำลังซื้อไม่ดี แต่ยอดขายทีวีโฮมชอปปิงไม่ลดลงเลย” อภิรวี พิชญเดชะ กรรมการผู้จัดการ แฮปปี้ กรุ๊ป แบรนด์น้องใหม่แต่มากประสบการณ์มองโอกาส
อภิรวี พิชญเดชะ
แฮปปี้ กรุ๊ป ลุยธุรกิจทีวีโฮมชอปปิงเพียง 7 เดือน ทำเงินได้ 185 ล้านบาท มีฐานลูกค้าหลัก “แสนราย” หลังซุ่มทำตลาดเงียบๆ ล่าสุดเปิดหน้าชก ลุยขายสินค้าเต็มสูบ โดยแม่ทัพหญิง อภิรวี ฉายภาพจุดเริ่มต้นทำธุรกิจเกิดจาก Passion บวกกับประสบการณ์ทำงานในแวดวงวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ แถมอยู่ “เบื้องหลัง” แบรนด์ดังที่ลุยค้าขายผ่านจอแก้วเป็นรายแรกๆในยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เก๋าไม่พอ ต้นปีได้ “เนชั่นทีวี” ช่องข่าวอันดับ 1 มาร่วมทุนฝ่ายละ 50% เท่ากัน ศักยภาพช่องและเครือช่วยติดอาวุธลุยได้เต็มที่
ทว่า การเป็นน้องใหม่ จะเปิดสงครามแดงเดือด(Red Ocean) ชนกับตลาดและเซ็กเมนต์ที่ผู้เล่น “ขาใหญ่” ที่มีอยู่ 15 ราย เช่น ทีวีไดเร็ค โอช้อปปิ้ง(เกาหลี+แกรมมี่)1781 ไลฟ์สตาร์(อาร์เอส) 1577 โฮมชอปปิ้ง ทรูช็อปปิ้ง ไฮ ช้อปปิ้ง(ทีวีไดเร็ค+โมโม่ ดอทคอมฯ) และช้อปแชนแนล(สหพัฒน์+ซูมิโต โมคอร์ปอเรชั่น) เป็นต้น คุมพื้นที่อยู่ ไม่ง่าย จึงมองน่านน้ำสีคราม(Blue Ocean) นำเสนอสินค้าและบริการ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สินค้าโอท็อป กาแฟ 4VALLEYS และสินค้าสุขภาพจากเครือสหพัฒน์ ไม่ว่าจะเป็น “เบเนคอล” ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบีเอสซี ฯ เจาะผู้บริโภค “Baby Boomer” และ “Generation X” เป็นหลัก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกันที่ดูช่องเนชั่นทีวี
ปี 2563 เตรียมติดอาวุธการตลาดเพิ่มทั้งสินค้า และขยายสู่แพลตฟอร์ม “ออนไลน์” ตอบโจทย์การซื้อของลูกค้าเป็น Omni Channel
ทั้งนี้ การเพิ่มสินค้าได้หารือกับ Top 2 สินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก เช่น สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน โดยรูปแบบการขายจะเป็นการซื้อ Spot โฆษณา 2 นาที หากปิดดีลในครึ่งปีแรก จะส่งผลให้สินค้าจาก 200 รายการ เพิ่มเป็น 400 รายการ ช่วย Speed การเติบโต และถือเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายสู่ตลาดใหญ่(Mass) จากปัจจุบันเฉพาะเบบี้บูมเมอร์มีสัดส่วนมากถึง 50% แบ่งเป็นชาย 43.55% และหญิง 56.45% การซื้อต่อครั้งเฉลี่ย 1,890 บาท ซื้อซ้ำ 2-3 ครั้ง
“ปัจจุบันเราได้สล็อตเวลาทางช่องเนชั่นทีวี 10 นาที 11 ครั้งต่อวัน และเป็น Spot 2 นาที จำนวน 30-40 ครั้งต่อวันเพื่อนำเสนอรายการขายสินค้า”
อีกไฮไลท์คือสินค้าบริการอย่าง Happy Experience แพ็คเกจทัวร์ต่างประเทศเยือนจุดหมายปลายทางที่ Unseen ตอบโจทย์วัยเกษียณสำราญที่มีกำลังซื้อสูง และเตรียมนำแพ็คเกจบริการสุขภาพจากโรงพยาบาลชั้นนำมาเจาะตลาดด้วย การทำตลาดดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 60% สินค้าอื่นๆ 30% และแฮปปี้ เอ็กซ์พีเรียนซ์ 10%
“ช่องทางหลักจะโตจากทีวี เรามีพันธมิตรไม่แค่เนชั่น เพราะมองหาเวลาจากทีวีดิจิทัลช่องอื่นเพื่อขยายตลาดด้วย จากที่ผ่านมานำเสนอรายการขายสินค้าผ่านช่องอมรินทร์ทีวี34 ช่องวัน31 ไทยรัฐทีวี32 ราว 2 เดือน และยังรุกออนไลน์ซึ่งเป็นอีกตลาดที่สนใจ เพราะช่องมีฐานคนอ่านข่าวสารต่างๆมากถึง 12 ล้านเพจวิว มีโอกาสต่อยอดมาเป็นฐานลูกค้าของเรา ขณะที่การทำตลาดจะใช้ฐานข้อมูลหรือ Data วิเคราะห์เจาะเฉพาะบุคคลหรือ Personalize ไม่ขาย Mass”
แผนดังกล่าว บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ 530 ล้านบาท เติบโต 186% และต้องการติดอันดับ 6 ของตลาดโฮมชอปปิง หรือมียอดขายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันผู้นำตลาดคือทีวีไดเร็คส่วนแบ่ง 21% โอช้อปปิ้ง 17% และ1781 ไลฟ์สตาร์ 16% เป็นต้น
“ภาพรวมทีวีโฮมชอปปิงปีนี้ยังเติบโตได้ 7-8% เท่ากับปีก่อน แม้เศรษฐกิจ กำลังซื้อไม่ดี มีไวรัสโคโรนา ทำให้ผู้บริโภคไม่อยากออกจากบ้าน แต่ทุกวิกฤติมีโอกาสเสมอ เพราะหันมาซื้อสินค้าผ่านทีวีแทน อย่างไรก็ตาม โจทย์ยากของธุรกิจโฮมชอปปิงคือ ปีก่อนมีทีวีดิจิทัลหายไป 7 ช่อง ทำให้ผู้เล่นที่เคยได้ต้นทุนสล็อตเวลาไม่สูงนัก ตอนนี้ราคาจะแพงขึ้น หน้าใหม่ที่จะเข้ามาทำยากขึ้น รวมถึงต้นทุนสินค้า เพราะต้องผ่านซัพพลายเออร์ ตลอดจนซัพพลายเชน 4 สเต็ป ทำให้กำไร(Net Porfit)ค่อนข้างต่ำ แม้ว่ากำไรขั้นต้น(Gross Profit)เฉลี่ยตั้งแต่ 10-65%(ชึ้นอยู่กับสินค้า) ทำให้มีผู้ประกอบการ 50% ประสบความสำเร็จ อีก 50% เลี้ยงตัวได้”
แม้ทีวีโฮมชอปปิงจะมีผู้เล่น “มาก” แต่ยังมีโอกาส เร็วๆนี้ “ช่อง3” จะเข้ามาท้าชิงเป็นรายที่ 17 ศึกนี้จึงดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
จำนวนผู้เล่นในตลาดทีวีโฮมชอปปิง