EGCO - ซื้อ
ผลการดำเนินงานยังเป็นไปตามแผน
Event
Conference call.
Impact
การดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ไม่ได้ถูกกระทบอย่างมีนัยสำคัญจาก COVID-19
ผู้บริหารแจ้งว่าโรงไฟฟ้า Paju ยังถือว่าอยู่ระดับแนวหน้าในแง่ของคำสั่งซื้อไฟฟ้า (based load power plant) โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ในขณะที่บริษัทจะรับรู้ต้นทุนค่าตัดจำหน่าย (amortization) จากการปันส่วนราคาซื้อ (purchase price allocation) (ประมาณ 100-120 ล้านบาทต่อไตรมาส) ซึ่งเราได้ใส่ไว้ในประมาณการเรียบร้อยแล้ว
ภัยแล้งส่งผลผลกระทบน้อยมากต่อโครงการทั้งในไทยและต่างประเทศ (โรงไฟฟ้ าพลังนํ้าในลาว)
โรงไฟฟ้า IPP ในประเทศไทย (BLCP, KN-4) ไม่ถูกกระทบจากภัยแล้งเนื่องจากสามารถหอหล่อเย็นสามารถใช้น้ำทะเลในการระบายความร้อนได้ ในขณะที่มีปริมาณน้ำจากแหล่งน้ำภายในโครงการและน้ำในแม่น้ำเพยีงพอสำหรับการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้า GPG ทั้งนี้ EGCO มีโรงไฟฟ้า SPP แค่โรงเดียวในภาคตะวันออก (EGCO Cogen) ซึ่งจากการวิเคราะห์ sensitivity เราพบว่าผลประกอบการปี 2563 ของ EGCO จะมี downside เพียงแค่ 0.2-0.5% เท่านั้น โดยในปัจจุบันระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำ NT2 ยังคงสูงกว่าเมื่อปี 2562 ในขณะที่ EGCO ทราบว่ากระแสน้ำเข้าเขื่อนในช่วง 1H63 ลดลง และไม่ได้ประกาศว่าเป็นปีที่โรงไฟฟ้าแห่งนี้ประสบภาวะภัยแล้ง
Valuation & Action
เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2563 ที่ 370 บาท เราเลือก EGCO เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มโรงไฟฟ้าแบบ conventional เนื่องจากบริษัทมีเงินสดในมือสูงถึง 2.05 หมื่นล้านบาท ในขณะที่หุ้นก็ยังมี upside อีก ทั้งนี้ ผู้บริหารกำหนดงบลงทุนปี 2563 เอาไว้ที่ 3 หมื่นล้านบาทสำหรับโครงการที่อยู่ใน pipeline และการทำดีล M&A
Risks
ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่