การเงิน
ฟิทช์ เรทติ้งส์ จ่อทบทวน ปรับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ชี้เสี่ยงขาดทุน จากการผิดนัดชำระหนี้
ฟิทช์ จ่อทบทวนอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสุทธิ ที่นับเป็นเงินกองทุนขึ้นที่2ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ใหม่ จากผลเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธนาคารฉบับปรับปรุงใหม่ สะท้อน ความเสี่ยงสูงขึ้น ผู้ถอืหุ้นกู้ด้อยสิทธิอาจต้องขาดทุนสูง กรณีที่เกิดการผิดนัดชำระหนี้
ฟิทช์ เรทติ้งส์ จะทำการทบทวนอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์ไทย ซึ่งเป็นผลจากการประกาศเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธนาคารฉบับปรับปรุงใหม่ (updated Bank Rating Criteria) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563
โดยเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่ปรับใหม่มีความสอดคล้องมากขึ้นกับทิศทางการพัฒนาการในด้านการแก้ปัญหาทางการเงินของธนาคาร (banks resolution) ซึ่งรวมถึงกรอบแผนการแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือแก่ธนาคารและการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่สามารถรองรับผลขาดทุน (bail-in)
. ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับเจ้าหนี้ที่มีลำดับการชำระหนี้ที่สูงกว่า (senior creditor) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโอกาศในการผิดนัดชำระหนี้และจำนวนเงินที่จะได้รับคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชำระหนี้ (recovery) ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับตราสารหนี้ทั้งในประเภทไม่ด้อยสิทธิและในประเภทด้อยสิทธิ
ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐาน (baseline) ที่จะใช้ปรับลดอันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ) ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จะเปลี่ยนเป็น 2 อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง (anchor rating) ซึ่งจากเดิมคือที่ 1หรือ 2 อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง ทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้น ที่ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าวอาจต้องขาดทุนในระดับสูงมากในกรณีที่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ (default)
ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐาน (baseline) ที่จะใช้ปรับลดอันดับเครดิตของตราสารหนี้ด้อยสิทธิ (หรือหุ้นกู้ด้อยสิทธิ) ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 จะเปลี่ยนเป็น 2 อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง (anchor rating) ซึ่งจากเดิมคือที่ 1หรือ 2 อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง ทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้น ที่ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าวอาจต้องขาดทุนในระดับสูงมากในกรณีที่เกิดการผิดนัดชำระหนี้ (default)
โดย ฟิทช์ประกาศให้สถานะ “อยู่ระหว่างสังเกตการณ์ผลกระทบจากการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิต” (Under Criteria Observation หรือ UCO) แก่ อันดับเครดิตสากลของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ออกโดยธนาคารในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค (APAC) ไปเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563
ซึ่งประกาศดังกล่าวรวมถึงหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) และของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBank (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้จากประกาศเรื่อง “Fitch Places One IDR, Debt Ratings of 26 APAC Banks Under Criteria Observation” ลงวันที่ 4 มีนาคม 2563
แม้ว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารพาณิชย์ไทยอาจจะไม่ได้ถูกประกาศให้เป็น UCO เช่นเดียวกันกับอันดับเครดิตสากล แต่เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตดังกล่าวจะถูกนำมาใช้และมีผลกระทบในลักษณะเดียวกันสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าว
ปัจจุบันฟิทช์จัดอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ของธนาคารพาณิชย์ไทย ที่ 1 ระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของธนาคาร
ทั้งนี้ฟิทช์จะทำการประเมินอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าวเป็นรายกรณี (instrument-by-instrument basis) โดยอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิอาจะถูกปรับลดอันดับเครดิตลงมาที่เกณฑ์มาตรฐาน หรือที่ 2 อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิง
ยกเว้นในกรณีที่อาจไม่เข้าเงื่อนไขที่จำเป็นต้องมีการปรับลดอันดับเพิ่มเติ่ม ตัวอย่างเช่นหุ้นกู้ด้อยสิทธิอาจจะยังคงถูกปรับลดอันดับลงเพียง 1อันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตอ้างอิงได้ในกรณีความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) นั้นถูกลดทอนลงจากการที่ธนาคารมีหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 และหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ในระดับที่มากพอ;
ในกรณีความเสี่ยงที่เจ้าหนี้จะไม่สามารถรับชำระหนี้ได้ตามกำหนดนั้นสูงกว่าความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้; ในกรณีโอกาศที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือในบางส่วน (partial support) หากเกิดการผิดนัดชำระหนี้; กรณีมีโอกาสที่ทางการจะเข้าให้การช่วยเหลือ (early regulatory intervention); หรือในกรณีที่มีตัวอย่างของการบรรเทาความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้โดยทางการ
ทั้งนี้ ฟิทช์คาดว่าจะทำการทบทวนและปรับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว โดยเร็วตามที่จะสามารถดำเนินการซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน
อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ที่ออกโดยธนาคารดังกล่าวนี้ อาจได้รับผลกระทบจากการปรับเกณฑ์การจัดอันดับเครดิต เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้อันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวยังคงมีผลต่อเนื่อง ณ ปัจจุบัน และสามารถดูรายละเอียดได้จาก www.fitchratings.com แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคตเมื่อฟิทช์ได้ทำการพิจาณาอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตฉบับใหม่
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้จากเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตฉบับปรับปรุง (Updated Bank Rating Criteria) ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 (Fitch Ratings Publishes New, Enahanced Bank Rating Criteria)