'แอร์ไลน์' ลุ้นกระทบเลื่อนสงกรานต์

นางนันทพร โกมลสิทธิ์เวช ผู้จัดการทั่วไปสายการพาณิชย์ สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า หลังจากวานนี้ (16มี.ค.) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)หรือ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19ได้แถลงเสนอเลื่อนวันหยุดสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่13-15เม.ย.นี้ออกไปก่อน เพื่อเพิ่มระยะห่างทางสังคม ลดการเคลื่อนย้ายคนทั้งในประเทศและออกนอกประเทศ โดยยังต้องรอผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ว่าจะอนุมัติเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ส่วนในมุมของผู้ประกอบการสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ไม่ได้ติดขัดใดๆ แต่ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาลให้ผู้โดยสารและสายการบินได้เตรียมตัว

“ขณะนี้ไทยไลอ้อนแอร์มียอดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าเส้นทางบินภายในประเทศช่วงหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์อยู่ที่40-50%ยังต้องรอดูว่าเมื่อมีประกาศอย่างเป็นทางการจากครม. จะมีผู้โดยสารขอยกเลิกหรือเลื่อนตั๋วหรือไม่ภายในสัปดาห์นี้”

โดยในภาวะปกติเส้นทางบินภายในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) เต็ม100%และแม้สงกรานต์ปีนี้กระแสการเดินทางอาจจะค่อนข้างเงียบเหงา แต่ไทยไลอ้อนแอร์ก็จะพยายามประคับประคองโหลดแฟคเตอร์ให้ไม่ต่ำกว่า50%

นายโทนี่ วัณณะพันธุ์ ผู้จัดการแผนกการตลาด สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ยังต้องรอดูความชัดเจนจากประกาศทางการของ ครม. หากข้อสรุปคือมีการเลื่อนวันหยุดสงกรานต์จริง ไทยเวียตเจ็ทประเมินว่าต้องใช้เวลาอีก2-3วันว่ายอดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงเทศกาลสงกรานต์จะเป็นอย่างไร

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากข้อเสนอให้เลื่อนวันหยุดสงกรานต์และชดเชยวันหยุดทีหลัง ททท.ได้รับนโยบายนี้เพื่อนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนไทย โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้มอบหมายให้ ททท.หารือรายละเอียดเรื่องนี้ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมว่าวันหยุดชดเชยนั้นควรเป็นเมื่อไร

ผู้ว่าการ ททท. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ททท.เตรียมพิจารณาปรับแผนรับมือผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพื่อเตรียมเสนอเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ต้นเดือน เม.ย.นี้ เพราะที่ผ่านมาคาดว่าสถานการณ์โควิด-19จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ประมาณ เม.ย.-พ.ค. จึงใช้แผนกระตุ้นท่องเที่ยวตลาดในประเทศ สร้างการรับรู้และดึงความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวไทยภายใต้งบประมาณเดิมที่มี แต่หากการควบคุมโควิด-19ใช้เวลานานถึงครึ่งปีหลังหรือปลายปีนี้ ททท.อาจต้องปรับแผนและของบฉุกเฉินเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวต่อไป

ทั้งนี้การระบาดของโควิด-19เมื่อต้นปี2563ททท.ได้กำหนดแผนรับมือผลกระทบไว้3แผนด้วยกัน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่แผน3คือช่วง6เดือนตั้งแต่ ก.พ.-ก.ค.2563และเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวกลับมาในเดือน ส.ค.นี้ คาดการณ์ว่าตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ30ล้านคนลดลง 24% จากปี 2562 ที่มีจำนวน 39.8 ล้านคน และจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.48 ล้านล้านบาท ลดลง 23% จากปีที่แล้วซึ่งมีรายได้ 1.93 ล้านล้านบาท