พาณิชย์ เปิดตัวแอพลิเคชั่น “สมาร์ทโช่ห่วย เดลิเวอรี่”ส่งสินค้าถึงบ้าน ช่วง โควิด-19 ระบาด
พาณิชย์ นำร่องร้านค้าโชห่วย 136 ร้านค้า ส่งสินค้าแบบเดลิเวอรี่ถึงหน้าบ้าน ผ่าน แพลตฟอร์ม” สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่.moc.go.th “และ Line DGA : สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอร์รี่”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดตัวดิจิทัลแพลตฟอร์ม” สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่.moc.go.th “และ Line DGA : สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอร์รี่” เพื่อสนับสนุนให้ร้านสมาร์ทโชห่วย สามารถให้บริการส่งสินค้าถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสถานการณ์ประเทศไทยต้องประสบกับภาวการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคบางส่วน หาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ยากขึ้นและมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีการใช้บริการขนส่งเดลิเวอรีของแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น แพลตฟอร์ม “สมาร์ทโชวห่วย เดลิเวอรี่" จะทำให้ผู้บริโภคสามารถค้นหาร้านค้าโชวห่วยใกล้บ้าน รวมถึงโชวห่วยที่มีบริการส่งเดลิเวอรี่ หวังช่วยโชวห่วยและผู้บริโภคพ้นวิกฤต
นายจุรินทร์ กล่าว่า สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการค้นหาร้านค้าโชวห่วยใกล้บ้านท่านหรือในพื้นที่ที่กำหนด สามารถค้นหาได้ผ่าน 2 ช่องทางคือเว็บไซต์ https://สมาร์ทโชวห่วยเดลิเวอรี่.moc.go.th ของกระทรวงพาณิชย์และไลน์ และ Line Chatbot ของ DGA (@dgachatbot) โดยผู้บริโภคสามารถค้นหาร้านค้าโชวห่วยที่ใกล้บ้านหรือในพื้นที่ที่กำหนด รวมถึงร้านค้าที่มีบริการส่งสินค้าถึงบ้าน อีกทั้งยังมีรายละเอียดเงื่อนไขในการขนส่งและการชำระเงิน สินค้าพิเศษที่อยู่ในร้าน เช่น อาหารสด อาหารตามสั่ง เจลแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ยังมีช่องทางติดต่อของร้านค้าด้วย ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าอยู่บนแพลตฟอร์ม 2,655 ร้านค้า เบื้องต้นในเฟสแรกยังเป็นร้านค้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อน โดยมีร้านค้าที่มีบริการส่งสินค้าทันทีแล้ว136 ร้านค้า เริ่มบริการตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 63 จากนั้นก็จะขยายร้านค้าตามความพร้อมของร้านโชห่วยต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการแข่งขันทางธุรกิจตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
“ร้านโชห่วยส่วนใหญ่กระจายความชุมชนต่างๆ จึงสามารถเป็นช่องทางการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภคในภาวะวิกฤติเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ในการหาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคของประชาชนทั่วไป เพราะสามารถหาซื้อได้ในพื้นที่ใกล้บ้าน แถมยังสะดวกสบายไม่ต้องเดินทาง เป็นการลดความเสี่ยงและสนองนโยบายรัฐบาลในการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อีกด้วย” นายจุรินทร์ กล่าว