NUSAขอก.ล.ต.เลื่อนส่งงบโค้งแรกปี63เป็นภายใน14 ส.ค.หลังโควิดระบาดหนัก

บมจ.ณุศาศิริ(NUSA)แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า มีความประสงค์ขอผ่อนผันการจัดทำและส่งรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานสำหรับงบการเงินรายไตรมาส สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 โดยจะนำส่งภายในวันที่ 14 ส.ค. 2563 เนื่องจากบริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 จนเป็นเหตุให้บริษัทฯ มีข้อจำกัดในการจัดทำและนำส่งรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานดังกล่าวข้างต้น ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ ด้วยเหตุมีผลกระทบต่อข้อมูลทางการเงินของบริษัทในลักษณะที่ทำให้มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของรายการต่างๆ ในรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญโดยบริษัทฯ ยังไม่สามารถระบุหรือคาดการณ์ผลกระทบที่ชัดเจนได้ รวมถึงมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดอุปสรรคหรือข้อจำกัดในการดำเนินงานหรือการเข้าถึงข้อมูลต่อการจัดทำรายงานดังกล่าว
ทั้งนี้จากการแพร่ระบาดโควิด-19ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท คือ บริษัทย่อยแห่งหนึ่งของบริษัทฯ ที่ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยวและบริการด้านสวนสนุกเชิงวัฒนธรรมที่จังหวัดชลบุรีได้ปิดกิจการลงชั่วคราว ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าบริษัทย่อยจะสามารถเปิดดำเนินการได้อีกเมื่อใด เพราะการแพร่ระบาดโควิด-19ที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินลงทุนในบริษัทย่อย โดยมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทย่อยดังกล่าวคิดเป็นประมาณเกือบร้อยละ 30 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกลุ่มบริษัท จึงมีผลกระทบต่องบการเงินอย่างมีนัยสำคัญ และบริษัทฯ ยังมีบริษัทร่วมอีกแห่งหนึ่งซึ่งดำเนินธุรกิจโรงแรมอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นกันโดยโรงแรมปิดบริการตั้งแต่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทร่วมเช่นกัน

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีบริษัทร่วมค้าในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ประเทศแรก คือQinhuangdao Panacee Hospital LLC (บริษัทฯ ถือหุ้นผ่านบริษัทร่วมค้า Panacee Medical Hong Kong Limited ร้อยละ 70) โดยทางการจีนมีคำสั่งปิดเมือง ทำให้ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญมารวมในการจัดทำรายงานงบการเงินรวมได้ โดยหากบริษัทฯจัดทำงบการเงินโดยไม่นำผลกระทบจากเหตุผลดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อการจัดทำงบการเงินรวม จะทำให้งบการเงินของบริษัทฯไม่อาจจะสื่อสารข้อมูลทางการเงินและการบัญชีที่มีความหมาย มีความถูกต้องและสาระสำคัญที่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งบการเงินในการพิจารณาและตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทฯนอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังมีบริษัทร่วมค้าในประเทศจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ประเทศแรก คือQinhuangdao Panacee Hospital LLC (บริษัทฯ ถือหุ้นผ่านบริษัทร่วมค้า Panacee Medical Hong Kong Limited ร้อยละ 70) โดยทางการจีนมีคำสั่งปิดเมือง ทำให้ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญมารวมในการจัดทำรายงานงบการเงินรวมได้

โดยหากบริษัทฯจัดทำงบการเงินโดยไม่นำผลกระทบจากเหตุผลดังกล่าวมาพิจารณาเพื่อการจัดทำงบการเงินรวม จะทำให้งบการเงินของบริษัทฯไม่อาจจะสื่อสารข้อมูลทางการเงินและการบัญชีที่มีความหมาย มีความถูกต้องและสาระสำคัญที่เพียงพอสำหรับผู้ใช้งบการเงินในการพิจารณาและตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาบริษัทได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ขอความร่วมมือไม่ให้เดินทางหรือรวมกลุ่มกันเป็นหมู่คณะ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from home) เป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องการทำงานเพื่อจัดทำรายงานงบการเงินที่ต้องใช้ระยะเวลามากกว่าช่วงเวลาปกติซึ่งบริษัทฯ ได้มีการหารือกับผู้สอบบัญชีในประเด็นดังกล่าวแล้ว บริษัทฯและผู้สอบบัญชีมีความเห็นร่วมกันว่า บริษัทฯอาจไม่สามารถจัดทำและนำส่งงบการเงินรวมสำหรับรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต. ภายในกำหนดระยะเวลา วันที่15 พฤษภาคม พ.ศ 2563 ได้

ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบ ครั้งที่ 2/2563 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การขอขยายระยะเวลาในการจัดทำและนำส่งรายงานที่แสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานออกไป มีความจำเป็นและเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยบริษัทย่อย บริษัทร่วม และบริษัทร่วมค้าในต่างประเทศ มีความจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐบาลของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อควบคุมการระบาดของ โควิด-19 ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญในการจัดทำและเปิดเผยรายงานแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ เพียงพอ และเป็นไปตามข้อกำหนดของทางการ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้บริษัทฯ ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมได้ ซึ่งมีผลกระทบต่อข้อมูลทางการเงินของบริษัทฯ ในลักษณะที่ทำให้มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในรายงานที่แสดงฐานะและผลการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ และยังไม่สามารถรวบรวมข้อมูลที่สำคัญจากต่างประเทศมาร่วมจัดทำรายงานได้อีกทั้งมีข้อจำกัดด้านการทำงานตามที่กล่าวไว้ข้างต้น  ดังนั้นจึงมีมติให้ขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ต่อสำนักงานคณะกรรมการก ากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ออกไป โดยขอนำส่งภายในวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เพื่อให้บริษัทฯ และผู้สอบบัญชีมีระยะเวลาเพิ่มมากขึ้นในการรวบรวม จัดทำและตรวจสอบข้อมูลที่จะมีการเปิดเผยให้แก่ผู้ลงทุนได้พิจารณาและรับทราบ ให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน น่าเชื่อถือและการขอขยายระยะเวลาดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่ง ฝ่ ายบริหารของบริษัทฯ จะมีการกำกับและติดตามให้เป็นไปตามข้อกำหนด หากมีการเปลี่ยนแปลงในข้อกำหนดหรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องประการใด บริษัทฯ จะปฏิบัติตามข้อกำหนดและจะมีการแจ้งให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการยื่นหนังสือขอผ่อนผันระยะเวลาการนำส่งงบการเงินสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุด ณวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ต่อ ก.ล.ต.ออกไป โดยขอนำส่งภายในวันที่ 14 ส.ค. 2563