บีโอไอ หนุนอุตฯการแพทย์ เพิ่มศักยภาพการผลิตสู้“โควิด”

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงมาตรการส่งเสริการลงทุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ล่าสุด ว่า เพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ออกมาตรการส่งเสริมเพิ่มเติมครอบคลุมตั้งแต่เครื่องมือแพทย์และชิ้นส่วน ซึ่งรวมไปถึงหน้ากากอนามัย ที่ต้องนำเข้า เพื่อให้มีการผลิตชิ้นส่วนต่างๆอย่างครบวงจรภายในประเทศ รวมทั้งยังส่งเสริมการผลิตสารออกฤทธิ์สำคัญในยา

ทั้งนี้ ได้กำหนดระยะเวลาการขอรับการส่งเสริมการลงทุน และระยะเวลาที่ต้องผลิตสินค้าออกมาป้อนตลาด โดยได้กำหนดให้ผู้ที่ขอรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ตามมาตรการใหม่นี้ จะต้องขอรับการส่งเสริมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – มิ.ย. 2563

“เราคิดถึงมาตรการนี้ตั้งแต่ต้นปีที่เริ่มมีปัญหาการขาดแคลน แต่เนื่องจากกว่าจะกำหนดมาตรการและการประชุมบอร์ด ที่ไม่ได้มีทุกเดือน เวลาที่ต้องใช้ออกมาตรการ จึงต้องครอบคลุมไปถึงม.ค. 2563 และเป็นการเร่งให้ผู้ที่ยื่นคำขอตั้งแต่ม.ค. ที่ผ่านมาเร่งผลิตให้ให้ภายในปีนี้”

สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี จะได้สิทธิ์พื้นฐานก่อนแต่ถ้าขอตอนนี้ภายในมิ.ย. 2563 และตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด จะได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มอีก 3 ปี

ทั้งนี้ ยังกำหนดให้ผู้ที่ยื่นขอรับสิทธิประโยชน์อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ จะต้องจำหน่ายและหรือบริจาคภายในประเทศอย่างน้อย 50%ภายในปีนี้และปี 2564 

“โรงงานหน้ากากอนามัยของซีพี ก็ได้รับสิทธิประโยชน์นี้ด้วย โดยทุกโครงการที่ยื่นเข้ามาตั้งแต่ 1 ม.ค. ทุกรายถ้าตรงตามเงื่อนไขก็ได้รับสิทธิประโยชน์นี้เหมือนกันหมดคนที่ยื่นเข้ามาหลายรายไม่ได้ประกอบกิจการจำพวกนี้เป็นหลักแต่อยากเข้ามาช่วยผลิต เรามีมาตรการอำนวยความสะดวกในการนำเข้าเครื่องจักรให้”

รายงานข่าวแจ้งว่า ส่วนยอดการขอส่งเสริมการลงทุนภาพรวมไตรมาส 1 ปีนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์จำนวน 6 โครงการ มูลค่า 378 ล้านบาท จำนวนนี้ ได้รวมการยื่นขอจากกลุ่มซีพีด้วย 

โดยคำขอเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์สถิติในรอบ 5 ปี (2558-2562) กิจการผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วนมี 64 โครงการ มูลค่าการลงทุน 19,018 ล้านบาท กิจการผลิตยา 48 โครงการ มูลค่าลงทุน 10,853 ล้านบาท รวมทั้งยังมีกิจการผลิต Non-woven Fabric หรือผลิตภัณฑ์สุขอนามัยจาก Non-woven Fabric 15 โครงการ มูลค่าการลงทุน 4,955 ล้านบาท