'รัฐ-เอกชน' ยกระดับเที่ยวปลอดภัย เตรียมเปิดตัวสัญลักษณ์ 'เซฟตี้-เฮลธ์'
“ททท.” ผนึกกระทรวงท่องเที่ยวฯ-สธ.-เอกชน เดินหน้าโครงการยกระดับมาตรฐานบริการของผู้ประกอบการไทย เตรียมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “Amazing Thailand Safety and Health Administration” ดึงเชื่อมั่นทัวริสต์หลังจบโควิด-19
หลังจากสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคโควิด-19 ทั่วโลก ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2563 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพียง 6.68 ล้านคน ลดลงถึง 38% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยว 10.79 ล้านคนของไตรมาสแรกปีที่แล้ว
ขณะที่การประเมินสถานการณ์ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุก่อนหน้านี้ว่า ตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 16 ล้านคน ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวไทยคาดอยู่ที่ 60 ล้านคน-ครั้ง ทั้งสองตลาดลดลงกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน และนักท่องเที่ยวไทย 167 ล้านคน-ครั้ง หรือคิดเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป 23.8 ล้านคน นักท่องเที่ยวไทยลดลง 107 ล้านคน-ครั้งตามลำดับ
ส่วนรายได้รวมท่องเที่ยวไทยปีนี้ล่าสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 1.12 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 7.4 แสนล้านบาท และรายได้จากตลาดในประเทศ 3.8 แสนล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมปีนี้ลดลงถึง 1.89 ล้านล้านบาทเมื่อเทียบกับปีที่แล้วซึ่งมีรายได้รวม 3.01 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ตลาดต่างประเทศ 1.93 ล้านล้านบาท และรายได้ตลาดในประเทศ 1.08 ล้านล้านบาท
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.อยู่ระหว่างดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานบริการของผู้ประกอบการไทย โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และภาคเอกชนท่องเที่ยวอย่างสมาคมและสมาพันธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องครอบคลุมทุกเซ็กเตอร์ เช่น โรงแรม บริษัททัวร์ มัคคุเทศก์ แหล่งท่องเที่ยว สวนสนุก ค้าปลีก ภัตตาคาร ร้านอาหาร สปา รถเช่า ธุรกิจอีเวนต์ รวมถึงหน่วยงานรัฐ อาทิ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (ทีเส็บ) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)
หลังจากได้ประชุมร่วม 2 กระทรวงระหว่างการท่องเที่ยวฯและ สธ.เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 กรมภายใต้ สธ.ได้แก่ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้มีการร่างเกณฑ์กำหนดการพิจารณาเรื่องการเปิดให้ดำเนินการกิจกรรมทางการท่องเที่ยวและการกีฬา รวมถึงอีเวนท์และการจัดประชุม โดย ททท.จะนำร่างเกณฑ์กำหนดนี้มาเสริมโครงการยกระดับมาตรฐานฯ ซึ่งได้รวบรวมมาตรฐานต่างๆ ของแต่ละสมาคมท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เข้าร่วม
และเตรียมเปิดตัวตราสัญลักษณ์ “Amazing Thailand Safety and Health Administration” หลังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ให้สถานประกอบการสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้
โดยยังต้องติดตาม Exit Strategy ของรัฐบาลเพิ่มเติม ล่าสุดวานนี้ (27 เม.ย.) ทางศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้พิจารณาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่อไปอีก 1 เดือน จากเดิมจะครบกำหนดวันที่ 30 เม.ย.นี้
“โดยระหว่างนี้ ททท.ได้ประชาสัมพันธ์ถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวว่าการจะได้ตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand SHA นี้ ผู้ประกอบการต้องดำเนินการแบบเหนือมาตรฐาน (Beyond Standard) และยึดตามเกณฑ์ของ สธ.เพื่อความปลอดภัยจากโรคระบาด ดึงความมั่นใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับมา หลังการใช้ชีวิตของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งปกติใหม่หรือ New Normal ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดให้ผู้ประกอบการสมัครเพื่อเข้าประเมินรับตราสัญลักษณ์ได้ในเร็วๆ นี้”
สำหรับเกณฑ์มาตรฐานตราสัญลักษณ์ Amazing Thailand SHA ททท.ได้ศึกษาแนวทางจากประเทศจีนซึ่งให้บทเรียนที่ดีมาก เช่นเรื่องการจำกัดจำนวนคนเข้าแหล่งท่องเที่ยวตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การเก็บฐานข้อมูลของคนที่ออกเดินทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขของจีนยังได้ออกแอพพลิเคชั่นเพื่อเก็บบันทึกข้อมูลสุขภาพ ผู้ใช้งานแอพฯสามารถแสดงข้อมูลนี้ว่าตนไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อก่อนใช้บริการสถานประกอบการได้
ที่ผ่านมา ททท.ยังได้ร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดึงกว่า 25 โรงแรมทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดจัดแคมเปญ “Hotel Distancing” เสนอขายแพ็คเกจห้องพักแก่ลูกค้าที่สนใจเข้าทำงานและพักผ่อนในโรงแรมบนแพลตฟอร์มห้าง ททท. จำนวนขั้นต่ำ 7 คืน โดยบางแพ็คเกจเสนอขายที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 8,000 บาทสำหรับเข้าพัก 7 คืน รวมอาหาร 3 มื้อต่อวัน