รวม 'มาตรการเยียวยา' ลูกหนี้ 'พักชำระ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ แจกเงิน' จากทุกธนาคาร
อัพเดท! สถาบันการเงินแจกความอยู่รอด ผ่านมาตรการ "เยียวยาลูกหนี้" ทั้งการออกมาตรการพักชำระหนี้ แจกเงิน และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ของธนาคารต่างๆ ช่วง "โควิด-19"
สถานการณ์ "โควิด-19" ส่งผลกระทบกับเงินในกระเป๋าของประชาชน และสภาพคล่องของธุรกิจต่างๆ สถาบันการเงินทั้งธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ ต่างออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้หลากหลายรูปแบบ เพื่อช่วยลดภาระ เพิ่มสภาพคล่อง และเสริมความแข็งแกร่งทั้งการเงินส่วนบุคคลและธุรกิจให้ผ่านพ้นไปได้ในสภาวะวิกฤติครั้งนี้
"กรุงเทพธุรกิจ" จำแนกมาตรการการช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน ทุกแห่ง โดยแบ่งตามลักษณะการช่วยเหลือได้ ดังนี้ (อัพเดท ณ วันที่ 13 พ.ค. 63)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
1. มาตรการแจกเงิน
ธนาคารกสิกรไทยออกมาตรการ "เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์" แจกเงินสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ หมอ พยาบาล รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานใกล้ชิดผู้ป่วย หรือต้องเสี่ยงภัยในมิติต่างๆ จาก "โควิด-19" โดยนำร่องแจกบุคลากรการแพทย์ 5 จังหวัดภาคใต้ คนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีขวัญในกำลังใจในการทำงาน และเพิ่มสภาพคล่อง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
2. มาตรการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ และดอกเบี้ย 0%
- ธนาคารกสิกรไทย
ออกมาตรการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงาน SME” ช่วยธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน ให้มีเงินทุนในการจ้างพนักงานให้มีรายได้และอยู่รอด ด้วยการสนับสนุนเงินกู้ ดอกเบี้ย 0% ไม่ต้องผ่อน 1 ปี ภายใต้วงเงิน 1,000 ล้านบาท
สินเชื่อกรุงไทย ต้านภัยโควิด-19 ให้สินเชื่อเพิ่ม ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 2 คงที่ 2 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม โอน รับ จ่าย 1 ปี ทั้งนี้ ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า ร้านขายของฝากของที่ระลึก, ต้องถูกพักงานหรือเลิกจ้าง ถึงจะได้รับความช่วยเหลือทันที, กรณีอื่น ๆ แล้วแต่ทางธนาคารพิจารณา
- ธนาคารออมสิน
- มาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินสูงสุด 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 3 ปี โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาผ่อนชำระคืนแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี ใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน
- มาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19) วงเงินสูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 2 ปี ปลอดชำระเงินงวด 6 งวดแรก โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาผ่อนชำระคืนแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน
- โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) สำหรับผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี (คงที่ 2 ปี) ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุดไม่เกิน 10 ปี สามารถใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มาร่วมค้ำประกันได้
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ประสบภัยแล้ง ปี 2563
วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เกษตรกรผู้ประสบภัยแล้งสามารถกู้เพื่อลงทุนได้รายละไม่เกิน 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 0% ส่วนปีที่ 3 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย MRR-2% (ปัจจุบัน MRR= 6.875%) กำหนดชำระคืนไม่เกิน 10 ปี สนับสนุนสินเชื่อตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ - 31 ธันวาคม 2563
- มาตรการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มี อาชีพอิสระ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (COVID-19)
ให้สินเชื่อฉุกเฉินวงเงินสูงสุด 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 2 ปี ปลอดชำระเงินงวด 6 งวดแรก โดยเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาผ่อนชำระคืนแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ไม่ต้องใช้หลักประกัน
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM BANK มอบสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
- สินเชื่อระยะยาว 7 ปี สำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการทั่วไป วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปี ในปีที่ 1-2 ใช้หมุนเวียนในกิจการ
- สินเชื่อระยะสั้น 2 ปี สำหรับลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท วงเงินสูงสุด 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 ฟรี ดอกเบี้ย 6 เดือน ใช้หมุนเวียนในกิจการ
- สินเชื่อระยะยาว 7 ปี สำหรับลูกค้าและผู้ประกอบการทั่วไป วงเงินสูงสุด 100 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 ใช้ซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือต่อเติมปรับปรุงโรงงาน
- สินเชื่อส่งเสริมการจ้างงาน วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
ให้สินเชื่อใหม่เพื่อเสริมสภาพคล่องคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ นิติบุคคล 3% ต่อปี ใน 3 ปีแรก วงเงิน 1.0 ลบ. ต่อราย และบุคคลธรรมดา 5 % ต่อปีใน 3ปีแรก วงเงิน 0.5 ลบ. ต่อราย ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 7 ปี
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการลูกค้ารายเดิม หรือลูกค้ารายใหม่ ที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโควิด 19 ให้สินเชื่ออัตรากำไรเริ่มต้น 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก เพื่อเสริมสภาพคล่องและลงทุน ทั้งนี้ การช่วยเหลือทางการเงินขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและดุลยพินิจตามที่ธนาคารกำหนด
3. มาตรการพักชำระหนี้
- ธนาคารกรุงเทพ
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
- กลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิต
> ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) มีผลตั้งแต่รอบบิลของวันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังธนาคาร
> กลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ที่มีอาชีพหรือทำงานในธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว สายการบิน และอาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง จากการที่รัฐบาลประกาศให้หยุดบริการชั่วคราว หรือลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/เดือน สามารถขอรับความช่วยเหลือปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นคงเหลือที่ 12% โดยแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
- กลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทเงินกู้ (Installment Loan) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
- กลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย (วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 3 ล้านบาท) พักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
- สินเชื่อธุรกิจ SME (วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 20 ล้านบาท) ขอพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยลูกค้าแจ้งความประสงค์มายังช่องทางของธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
- สินเชื่อธุรกิจ
> สินเชื่อเดิมที่มีกับธนาคาร พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
> ให้สินเชื่อเพิ่ม ลูกหนี้ SMEs สนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมตามโครงการ “สินเชื่อบัวหลวง SME บรรเทาทุกข์จากภาวะเศรษฐกิจ” เพื่อช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการที่ธุรกิจได้รับผลกระทบ วงเงินต่อรายสูงสุด 30 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR-1% ต่อปี หรือพิจารณาผ่อนผันตามความเหมาะสมแต่ละกรณี ทั้งนี้ สำหรับลูกหนี้รายใหญ่พิจารณาสินเชื่อเพิ่มตามความเหมาะสมเป็นรายกรณี
- ลูกหนี้รายย่อย (สินเชื่อบัตรเครดิต)
> ผ่อนผันลดอัตราดอกเบี้ยลงจากอัตราปกติร้อยละ 50
> ผ่อนผันลดจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระเหลือไม่เกินร้อยละ 10
> ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ
> ผ่อนผันให้ไม่ต้องผ่อนชำระหนี้ตามยอดเรียกเก็บไม่เกิน 3 รอบบัญชี
- ลูกหนี้รายย่อยอื่นๆ (สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, สินเชื่อบุคคล)
> ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ผ่อนผันให้ปลอดการชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
> ปรับยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุด 40% ไม่เกิน 24 เดือน
> ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ระยะเวลาหนึ่ง
> ผ่อนผันยกเว้นดอกเบี้ยจากหนี้ที่ค้างชำระ
- ธนาคารกสิกรไทย
ลูกค้าธุรกิจ
- สินเชื่อเพื่อธุรกิจ (ประเภทเงินกู้) ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 12 เดือน
- วงเงินหมุนเวียน (ประเภทตั๋ว) ขยายตั๋วได้ไม่เกิน สูงสุด 12 เดือน
- สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักร ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ย สูงสุด 12 เดือน
ลูกค้ารายย่อย
- สินเชื่อบ้านกสิกรไทย และสินเชื่อที่อยู่อาศัยอื่นที่มีหลักประกัน ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยสูงสุด 12 เดือน หรือ ลดจำนวนผ่อนต่องวดลง 50% สูงสุด 12 เดือน
- สินเชื่อบัตรเครดิต ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจากเดิม 10% เป็น 5% ปี 2563-2564 , 8% ในปี 2565, 10% ในปี 2566 (ธนาคารปรับอัตโนมัติโดยลูกค้าไม่ต้องติดต่อธนาคาร)
- สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อเงินสดหมุนเวียน ผ่อนชำระเฉพาะดอกเบี้ยถึงรอบบัญชีเดือนธันวาคม 2563
- สินเชื่อส่วนบุคคล เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี
- สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี
- ธนาคารไทยพาณิชย์
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1มีนาคม 2563
- สินเชื่อบัตรเครดิต ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกท่านจากเดิม 10% โดยอัตโนมัติให้เป็น 5% ในปี 2563 และ 2564 เป็น 8% ในปี 2565 และเป็น 10% ในปี 2566 ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยไม่ต้องแจ้งความจำนงมาที่ธนาคาร
- สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Speedy Loan) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
- สินเชื่อรถยนต์ (วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท)* เลื่อนชำระค่างวดเป็นเวลา 3 เดือน
- สินเชื่อบ้าน (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท)* พักชำระเงินต้นเป็นเวลา 4 เดือน
- สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SME) (วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท)* พักชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยมาตรการนี้ ลูกค้าสามารถติดต่อยื่นคำร้องได้ผ่านช่องทางธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
- สินเชื่อธุรกิจ
> พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน
> ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 12 เดือน
> ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C) สูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อรถยนต์ พักชำระค่างวดสูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อบัตรเครดิตไทยพาณิชย์ ทุกประเภท และสินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อส่วนบุคคล Speedy Cash พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อบ้าน พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน
- สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย (SME) (ยอดสินเชื่อไม่เกิน 75 ล้านบาท) พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน และขอวงเงินสินเชื่อเพิ่มสภาพคล่องโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี อัตราดอกเบี้ยต่ำ 2% เป็นเวลา 2 ปี
- ธนาคารกรุงไทย
> ลูกค้าสินเชื่อทุกราย (สินเชื่อ Smart money/อเนกประสงค์ 5 Plus) เลื่อนชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน กรณีลูกค้าที่มีรายได้ลดลง พักชำระเงินต้น สูงสุด 12 เดือน
> ลูกหนี้ที่ประสงค์จะขอ พักชำระเงินต้นและ/หรือดอกเบี้ย สามารถติดต่อ ยื่นคำร้องได้ทางช่องทางของธนาคา
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2563
- ลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ลดลง
> พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 12 เดือน
> ขยายระยะเวลาวงเงินหมุนเวียน (P/N, T/R, P/C) สูงสุด 6 เดือน
- มาตรการเพิ่มเติม สินเชื่อกรุงไทย ต้านภัยโควิด-19 ให้สินเชื่อเพิ่ม ดอกเบี้ยเริ่มต้นร้อยละ 2 คงที่ 2 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม โอน รับ จ่าย 1 ปี
- ลูกค้าบุคคลและผู้ประกอบการรายย่อย
> ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร รถเช่า ร้านขายของฝากของที่ระลึก
> ต้องถูกพักงานหรือเลิกจ้าง ถึงจะได้รับความช่วยเหลือทันที
> กรณีอื่น ๆ แล้วแต่ทางธนาคารพิจารณา
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
> พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
> ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
> พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
> สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (COVID-19)
> ธนาคารพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
> ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน, ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือไม่เป็นสินเชื่อในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อน 1 มกราคม 2563 ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถยื่นคำขอได้ไม่เกิน 31 ธันวาคม 2563 - สินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้
> รถยนต์: พักชำระค่างวดสูงสุดระยะเวลา 6 เดือน
> ปรับโครงสร้างหนี้ ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ และลดค่างวด
ลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต กรุงศรี คอนซูเมอร์
มาตรการที่ 1 – ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำต่อเดือน สำหรับลูกค้าทุกราย โดยมิต้องติดต่อแจ้งความจำนง
- บัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 - 31 ธันวาคม 2564
มาตรการที่ 2 – พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นรายกรณี ให้แก่
- กลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทางตรง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม การบิน และธุรกิจบริการอื่นที่เกี่ยวเนื่อง เป็นต้น
- กลุ่มลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบทางอ้อม
(ลูกค้าสามารถลงทะเบียนกับกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งแต่ 15 เมษายน 2563 - 30 มิถุนายน 2563)
- ลดอัตราดอกเบี้ยได้สูงสุดไม่เกิน 2% จากอัตราดอกเบี้ยเดิม เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ยอดหนี้ค้างชำระก่อนลงนามในสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้โครงการ สามารถชำระในช่วงท้ายของสัญญาได้
- ผ่อนปรนการชำระเงินต้น เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- ลดจำนวนเงินผ่อนชำระ เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ เป็นระยะเวลารวมไม่เกิน 12 เดือน
- การขยายอายุสัญญาสำหรับวงเงินที่ค้ำประกันโดย บสย. ภายในกรอบอายุของ บสย. โครงการนั้นๆ
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ พร้อมทั้ง ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมพิธีการสินเชื่อ
- การขยายวันครบกำหนดชำระ ขยายได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันครบกำหนดชำระเดิม ไม่เกินอายุเดิมของธุรกรรม
- การปรับวงเงินจากระยะสั้นเป็นสินเชื่อระยะยาว ไม่เกิน 12 เดือน
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ยผิดนัดเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ พร้อมทั้ง ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมพิธีการสินเชื่อ (คุณสมบัติของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ เป็นลูกหนี้สินเชื่อธุรกิจ (ยกเว้น Business Banking) ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากภาวะเศรษฐกิจ, ไม่มีสถานะเป็นลูกหนี้ NPL, ไม่ใช่ลูกหนี้ทุจริตหรืออยู่ในระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่มีรายชื่ออยู่ใน Blacklist หรือ Business Fraud
สิ้นสุดระยะเวลาของโครงการ : ธันวาคม 2564)
- ธนาคารออมสิน
มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยอัตโนมัติ 6 เดือน (สำหรับสินเชื่อทุกประเภท)
- สำหรับลูกค้าสินเชื่อปกติจนถึงค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 31 มี.ค. 63
- เริ่มพักชำระหนี้ตั้งแต่ 1 เม.ย. 63 ถึง 30 ก.ย. 63
- ไม่ต้องแจ้งการเข้าร่วมหรือลงทะเบียนใด ๆ หากไม่ประสงค์เข้าร่วมก็สามารถจ่ายชำระได้ตามปกติ
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าบัตรเครดิต และสินเชื่อบัตรเงินสด (ไม่เป็นหนี้ค้างชำระเกิน 90 วัน)
- บัตรเครดิต ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำ ลดเหลือ 5%
- สินเชื่อบัตรเงินสด ลดเหลือ 3%(ระยะเวลา 1 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2563)
โครงการ Refinance ลูกหนี้ดี สินเชื่อบัตรเครดิต โดยรวมหนี้ตั้งแต่ 1 สถาบันการเงินขึ้นไป ให้มารวมหนี้ไว้ที่ธนาคารออมสิน โดยลูกค้าต้องมีประวัติการชำระหนี้ดีย้อนหลัง 12 เดือน และไม่มีประวัติการผ่อนชำระล่าช้ามากกว่า 30 วัน โดยมีอัตราดอกเบี้ยอัตราดอกเบี้ย 8.5% - 10.5% ต่อปี วงเงินสูงสุด 100,000 บาท ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 4 ปี (ระยะเวลาโครงการ 1 มีนาคม - 30 มิถุนายน 2563)
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ค้างชำระ เปลี่ยนหนี้บัตรเครดิต และบัตรเงินสดเป็นเงินกู้ที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 8.5% - 10.5% ระยะเวลาผ่อน 4 ปี (ระยะเวลาลงทะเบียน 16 มีนาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2563)
มาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย/ สินเชื่อบุคคล/ สินเชื่อ SMEs/ สินเชื่อธุรกิจ
- พักเงินต้น 2 ปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน 50% - 100%
- ขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 4 ปี และ Cash back 20 % ให้แก่ลูกหนี้ที่ชำระดอกเบี้ย 100% เมื่อชำระหนี้ได้ตามสัญญาทุก 6 เดือน เป็นเวลา 1 ปี
ทั้งนี้ เมื่อคืนเงิน (Cash back) แล้วดอกเบี้ยที่ธนาคารได้รับชำระ ต้องไม่ต่ำกว่า 4% ต่อปี (ระยะเวลาลงทะเบียน 16 มีนาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2563)
- ให้ลูกค้าเดิมกู้วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักประกัน ดอกเบี้ยร้อยละ 0.50 ต่อเดือน (Flat rate) ปลอดชำระ 6 เดือน ชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 5 ปี (ระยะเวลา 16 มีนาคม 2563 - 31 ตุลาคม 2563)
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
- มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ครอบคลุมลูกหนี้เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบัน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ไม่เกิน 20 ปี ปลอดเงินต้นไม่เกิน 3 ปีแรก และปรับลดอัตราดอกเบี้ย ให้สินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือค่าใช้จ่ายประกอบอาชีพ
- ธนาคารยูโอบี
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้ และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
- สินเชื่อบัตรเครดิตยูโอบี
> ปรับลดอัตราชำระหนี้ขั้นต่ำ
> ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% จนถึงสิ้นปี 2564
> ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 8% ในปี 2565
> ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 10% ในปี 2566 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี/ เปลี่ยนยอดหนี้คงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุดไม่เกิน 48 รอบบัญชี/ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- สินเชื่อบัตรเครดิตยูโอบีแคชพลัส
> ปรับลดอัตราชำระหนี้ขั้นต่ำ
> ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 2.5% จนถึงสิ้นปี 2565
> ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% ในปี 2566 พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี/ เปลี่ยนยอดหนี้คงค้างเป็นยอดผ่อนชำระรายเดือนสูงสุดไม่เกิน 48 รอบบัญชี/ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- สินเชื่อบุคคล
> พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 3 รอบบัญชี
> ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
> ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ (เฉพาะกรณีพิเศษ)
- สินเชื่อบ้าน
> พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 งวดบัญชี
> พักชำระเงินต้น โดยชำระเฉพาะดอกเบี้ย 12 รอบบัญชี
> ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
> ขยายระยะเวลาชำระหนี้
- สินเชื่อธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอี
> พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 งวดบัญชี
> ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุดและขยายระยะเวลาชำระหนี้สูงสุด 12 เดือน
> พักชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน
> ให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มสูงสุด 20 ล้านบาท ภายใต้โครงการ soft loan อัตราดอกเบี้ย 2% ระยะเวลา 2 ปี
- ธนาคารทิสโก้
- สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ เลื่อนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน หรือลดภาระค่างวด 6 เดือน (ตามความประสงค์ของลูกค้า)
- สินเชื่อเช่าซื้อ (รถทุกประเภท วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท) พักชำระเงินต้น 6 เดือน
- สินเชื่อบ้าน (วงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท) พักชำระเงินต้น 3 เดือน และ พิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามสถานการณ์ของแต่ละราย
- สินเชื่อธุรกิจ SMEs (วงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท) พักชำระเงินต้น 6 เดือน
หมายเหตุ: ทุกประเภทสินเชื่อ ลูกค้าลงทะเบียนผ่าน www.tisco.co.thธนาคารจะติดต่อกลับภายใน 14 วัน และสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือทางลิงก์ TISCO
- ธนาคารธนชาต
- สินเชื่อบัตรเครดิต ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าจากเดิม 10% เป็น 5% หรือ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน ให้ลูกค้าทุกรายโดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
- สินเชื่อบัตรกดเงินสด ลดยอดชำระขั้นต่ำ (ไม่รวม Sabai Cash / IPP) จาก 3% หรือ 500 บาท เหลือ 1% หรือ 100 บาท สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ
- สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ธนชาต DRIVE พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 96 งวด เมื่อครบกำหนดพักชำระหนี้
- สินเชื่อเล่มแลกเงิน พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 60 วัน
- สินเชื่อบ้านธนชาต พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
- สินเชื่อบุคคลธาต พักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
ลูกค้าธุรกิจ
- สินเชื่อ SMEs รายย่อย
- Term Loan พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน
- O/D ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.5% จากสัญญาเดิม ระยะเวลา 3 เดือน (ยกเว้น O/D ที่มีเงินฝากเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน)
สินเชื่อลูกค้ารายใหญ่
- Term Loan พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 6 เดือน หรือขยายระยะเวลาเงินกู้ 6 เดือน สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- Short term loan (Working Capital & Trade Finance) : ขยายระยะเวลาชำระหนี้ 3 เดือน สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
- ธนชาตทหารไทย
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563 สินเชื่อบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด
- บัตรเงินสด ยกเว้นการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยได้สูงสุดไม่เกิน 3 รอบบัญชี ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 ลูกค้ากลับมาชำระหนี้ตามปกติ โดยมีเงื่อนไข การชำระในรอบบัญชีที่ 4 จะนับรวมเงินต้นและดอกเบี้ยที่ค้างชำระตั้งแต่ 3 รอบบัญชีก่อนหน้า โดยไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระบัตรเครดิตทีเอ็มบี จาก 10% เป็น 5% บัตรกดเงินสด Ready Cash จาก 5% เป็น 3% ให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มกราคม 2563 และลูกหนี้ค้างชำระ (NPL) ตั้งแต่ 1 มกราคม 2562
ลูกหนี้รายย่อย
- สินเชื่อบ้าน พักชำระหนี้ (เงินต้นและดอกเบี้ย) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือนและเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ
- สินเชื่อส่วนบุคคล พักชำระหนี้ (เงินต้น ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี)) ได้สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน และเมื่อครบกำหนดให้กลับมาชำระหนี้ตามปกติ ขยายระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้เพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน หรือจนกว่าจะชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) ครบถ้วน
ลูกหนี้ธุรกิจ
- บัตรเครดิต ยกเว้นการชำระยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นเวลา 3 รอบบัญชี นับจากวันที่ลูกค้าโทรติดต่อเข้ามาแจ้งความประสงค์ โดยลูกค้าสามารถเริ่มชำระยอดใช้จ่ายบัตรเครดิต ตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป สำหรับการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม (ถ้ามี) จะคำนวณตามปกติ แต่ไม่ถูกบันทึกเป็นการผิดนัดชำระหนี้ โดยรอบบัญชีที่ 4 ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะถูกคำนวณจากเงินต้นคงค้างรวมกับดอกเบี้ย กรณีมียอดแบ่งจ่ายรายเดือน TMB So GooOD, โปรแกรมผ่อนชำระ (IPP) และ บริการ TMB เงินสดผ่อนชิลล์ๆ ลูกค้าต้องดำเนินการชำระยอดผ่อนชำระของ 3 รอบบัญชีก่อนหน้า ในรอบบัญชีที่ 4
- พักชำระหนี้เงินต้นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน และขยายเวลาชำระหนี้ออกไปอีก 6 เดือน
- วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (O/D) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.5% จากสัญญาสินเชื่อปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน
- ธนาคารเกียรตินาคิน
ลูกหนี้รายย่อย
- พักชำระหนี้สูงสุด 6 เดือน
- ส่วนลดดอกเบี้ย
- ขยายระยะเวลาชำระหนี้
ลูกหนี้ธุรกิจ (ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ โรงแรม) พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุด 18 เดือน
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย)
สินเชื่อบัตรเครดิต ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10% เหลือ 5% สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตทุกท่าโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องแจ้งความประสงค์ ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 -31 ธ.ค. 2564
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ โดยให้ลูกหนี้ลงทะเบียน ซึ่งทางออนไลน์เป็นวิธีที่ทราบผลเร็วที่สุด
- วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 250,000 บาท ผ่อนปรนการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลาสูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
- วงเงินสินเชื่อเกิน 250,000 บาท พักชำระหนี้ 3 - 6 เดือน หรือ ปรับลดภาระค่างวดต่อเดือน และขยายเวลาชำระค่างวด ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัท ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป
สินเชื่อสำหรับลูกค้าธุรกิจ SMEs และบุคคลธรรมดา
- ผ่อนปรนการชำระหนี้เงินต้นชั่วคราวเป็นระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน
- เพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือการดำเนินธุรกิจของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
- ขอสงวนสิทธิ์พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าเป็นรายกรณี
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์
มาตรการสำหรับลูกหนี้ที่ยังจ่ายชำระหนี้และค้างชำระหนี้ไม่เกิน 90 วัน ณ 1 มีนาคม 2563
- ลูกค้าสินเชื่อบ้าน (ไม่เป็น NPL และมีวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท) พักชำระเงินต้น 3 เดือน
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SMEs ไมโครไฟแนนซ์ และ นาโนไฟแนนซ์ (ไม่เป็น NPL และมีวงเงินไม่เกิน 20 ล้านบาท) พักชำระเงินต้น 3 เดือน
ลูกหนี้ธุรกิจ
- ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระ เช่น ปลอดเงินต้นสูงสุด 12 เดือน และขยายระยะเวลาเงินกู้
- สนับสนุนสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนเพิ่ม
- ลดดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน โดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป
- ให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี
- ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย
เป็นลูกค้าสินเชื่อที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เนื่องจากสงครามการค้า ภัยแล้ง และ โรคระบาดร้ายแรง (Covid-19) และ มีศักยภาพในการผ่อนชำระสินเชื่อและยังดำเนินธุรกิจหรือทำงานอยู่
1.ลดภาระชำระหนี้
- ขยายเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 24 เดือน* โดยลดจำนวนเงินในการผ่อนชำระ สามารถชำระ รวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือชำระเฉพาะดอกเบี้ย หรือชำระเฉพาะเงินต้นได้
- ลูกค้าสินเชื่อไมโครเอสเอ็มอี (ทุกผลิตภัณฑ์) พักการชำระหนี้ (Skip Payment) สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน จากนั้นขยายเวลาการผ่อนชำระหนี้ให้สูงสุดไม่เกิน 24 เดือน รวม Skip Payment (พิจารณาเป็นรายกรณีไป)
2. เสริมสภาพคล่อง : ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม* วงเงินตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 30,000,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 8 ปี
3. การตีโอนชำระหนี้ : ลดค่าธรรมเนียมการโอนที่กรมที่ดินเหลือ 0.01%
- ธนาคารซีไอเอ็มบี (ไทย)
สินเชื่อบุคคลเอกซ์ตร้าแคช ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19
- ลดอัตราผ่อนชำระ 3% ต่อเดือน โดยอัตโนมัติ ลูกค้าไม่ต้องลงทะเบียน
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อผ่อนชำระค่างวดเท่ากันทุกเดือน โดยลงทะเบียนผ่าน line official account : @cimbthai และเตรียมรายละเอียดตามสัญญาสินเชื่อ และข้อมูลติดต่อให้ครบถ้วน
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19
- พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือ ลดค่างวดการผ่อนชำระ (ลงทะเบียนผ่าน line official account : @cimbthai และเตรียมรายละเอียดตามสัญญาสินเชื่อ และข้อมูลติดต่อให้ครบถ้วน)
สินเชื่อรถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด – 19
- พักชำระค่างวด 3 เดือน
- วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท ไม่มีผู้ค้ำประกัน สามารถกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.cimbthaiauto.com ติดต่อ 02-180-5555 เพื่อยืนยันเข้าร่วมโครงการ โดยไม่ต้องใช้เอกสาร
- วงเงินไม่เกิน 250,000 บาท มีผู้ค้ำประกัน สามารถกรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.cimbthaiauto.com ติดต่อ 02-180-5555 เพื่อยืนยันเข้าร่วมโครงการ สามารถ Download เอกสารจากเว็บไซต์ และผู้ค้ำประกันกรอกข้อมูลในเอกสารหนังสือให้ความยินยอม ทั้งนี้ เอกสารที่ต้องใช้ (1) หนังสือยินยอมผู้ค้ำประกันลงนาม (2) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ค้ำประกัน จัดส่งทางไปรษณีย์
- วงเงินเกิน 250,000 บาท มี และ ไม่มี ผู้ค้ำประกัน กรอกและจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ดังนี้
(1) คำขอความช่วงเหลือในการผ่อนระยะเวลาชำระสินเชื่อฯ
(2) บันทึกข้อตกลงแก้ไขสัญญาเช่าซื้อ
(3) สำเนาบัตรประชาชนของผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกัน (ถ้ามี)
สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
- พักชำระค่างวด 3 เดือน สำหรับวงเงินไม่เกิน 35,000 บาท
- ลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชัน WL SOM
สินเชื่อบ้านโฮมโลนฟอร์ยู สินเชื่อมอร์เกจพาวเวอร์ สินเชื่อบุคคลแคชลิงค์ และ สินเชื่อพรอพเพอร์ตี้โลน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด - 19
- พักชำระหนี้เงินต้น 3 เดือน สำหรับยอดหนี้ไม่เกิน 3 ลบ. หรือ พักขำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน หรือลดค่างวดการผ่อนชำระ
สามารถลงทะเบียนผ่าน line official account @cimbthai และเตรียมรายละเอียดตามสัญญาสินเชื่อ และข้อมูลติดต่อให้ครบถ้วน
SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด–19
- พักชำระเงินต้น สูงสุด 6 เดือน เงื่อนไขการพิจารณาขึ้นอยู่กับระดับผลกระทบที่ได้รับจากสถานการณ์ โควิด – 19 โดยลูกค้าสามารถติดต่อลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อที่ดูแล
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
มาตรการที่ 1 : สำหรับลูกค้าของธนาคารที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ในสถานะกฎหมาย
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
มาตรการที่ 2 : สำหรับลูกค้าของธนาคารทั้งที่มีสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- เมื่อครบกำหนดระยะเวลาพักชำระเงินต้นแล้ว สามารถขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้อีก สูงสุดไม่เกิน 10 ปี
(ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563)
มาตรการที่ 3 : สำหรับลูกค้าของธนาคารทั้งที่มีสถานะบัญชีปกติและสถานะ NPL
- พักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน
- ลูกค้าต้องนำส่งหลักฐานที่สะท้อนให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบให้รายได้ลดลง (ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563)
มาตรการที่ 4 : สำหรับลูกหนี้ NPL หรืออยู่ในสถานะกฎหมาย
- ลดดอกเบี้ยเหลือ 3.9% ต่อปี จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย 6 เดือน
- ลูกค้าที่ขอใช้มาตรการนี้ ต้องเคยชำระเงินงวดอย่างน้อย 1 งวด ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
- เมื่อสมัครใช้มาตรการและชำระเงินงวดล่าสุดแล้ว ธนาคารจะอนุมัติให้เข้ามาตรการในวันถัดไปและแจ้งเงินงวดใหม่ที่ต้องชำระใน 6 เดือนถัดไปให้ทราบ (ลงทะเบียนภายในวันที่ 30 เมษายน 2563)
มาตรการที่ 5: สำหรับลูกหนี้ที่มีวงเงินทุกบัญชีรวมกันภายใต้หลักประกันเดียวกันไม่เกิน 3 ล้านบาท
รายได้ต่อเดือนไม่เกิน 35,000 บาท
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน
- ยกดอกเบี้ยที่พัก 4 เดือน เมื่อสิ้นสุดสัญญา (ลงทะเบียน 13-30 เมษายน 2563)
มาตรการที่ 6: สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข
- สำหรับ แพทย์ พยาบาล เทคนิคการแพทย์ รังสีวิทยา เภสัชกร และผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวเนื่องในหน่วยงานด้านสาธารณสุขและสถานพยาบาล
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 4 เดือน และลดดอกเบี้ยเหลือ 1% ต่อปี (ลงทะเบียน 13-30 เมษายน 2563)
มาตรการที่ 7: สำหรับลูกค้า SMEs ผู้ประกอบการแฟลต/อพาร์ทเมนท์ และผู้ประกอบการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย
(Pre-Finance)
- วงเงินสินเชื่อรวมทั้งกลุ่มธุรกิจของลูกค้าที่มีกับธนาคารไม่เกิน 100 ล้านบาท มีสถานะบัญชีปกติ
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน
- กรณีสินเชื่อแฟลต เมื่อครบกำหนดให้พักชำระดอกเบี้ยได้อีก 12 เดือน จากนั้นให้ทยอยชำระดอกเบี้ยที่พักไว้ภายใน 24 เดือนหรือ 36 เดือน
- กรณีสินเชื่อพัฒนาโครงการ (Pre Finance) ให้ชำระดอกเบี้ยที่พักไว้ในช่วงท้ายของสัญญากู้เงิน
(ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2563)
มาตรการที่ 8: เพื่อช่วยเหลือลูกค้าฝ่าวิกฤตโควิด-19
- สำหรับลูกค้าที่เคยลงทะเบียนเข้ามาตรการที่ 1, 2, 3, 4 และ 6 แต่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และมีภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในด้านอื่น
- พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน แต่ต้องไม่เกินระยะเวลาการพักชำระของมาตรการเดิม
- เมื่อครบกำหนด ดอกเบี้ยที่พักชำระไว้สามารถทยอยผ่อนชำระให้หมดภายในระยะเวลาของสัญญาเงินกู้ (ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 28 มิถุนายน 2563)
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย (สงครามการค้า ภัยแล้ง และจาก COVID-19)
- กรณีอยู่ระหว่างใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่นให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563
- กรณีพ้นระยะการใช้อัตราดอกเบี้ยตามโปรโมชั่น ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน แบ่งเป็น
> กลุ่มลูกค้ารายย่อย/สวัสดิการ ใช้อัตราดอกเบี้ย MRR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
> กลุ่มลูกค้าแฟลต ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR-1.25% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
> ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2563
ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ให้ชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน โดยลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 1.00% ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน ยื่นคำขอภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย