Fed เตือนเศรษฐกิจไม่แน่นอน
คาดดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากความคาดหวังการปลด Lockdown เฟส 2 ในช่วงสัปดาห์นี้หลังวานนี้ศบค.รายงานไม่มียอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
ตลาดหุ้นวานนี้
SET วานนี้ย่อตัวลงปิดที่ 1,294 จุด (-5.14 จุด) หรือ -0.40% ด้วย Volume ซื้อขาย 6.2 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นรอบบ้านจากความกังวลไวรัส Covid-19 อาจกลับมาระบาดรอบ 2 หลังหลายประเทศผ่อนปรน Lockdown ที่เร็วเกินไป นอกจากนี้ Valuation SET ที่ค่อนข้างตึงตัวรวมถึงแรงขายตามสัญญาณเทคนิคแนวต้าน 1,300 จุดที่เป็นแรงกดดันต่อดัชนีอีกด้วย โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม ENERG FOOD และ COMM ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,029 ล้านบาท , Net Long TFEX SET50 3,120 สัญญา และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,009 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
เรามีมุมมองเป็นลบคาด SET อ่อนตัวทดสอบ 1,280 – 1,285 จุด ตาม Sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นรอบบ้านที่ปรับตัวลงหลังประธาน FED เตือนว่าไวรัส Covid-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนและมีความเสี่ยงในช่วงขาลง ประกอบกับความกังวลการผ่อนปรน Lockdown ที่เร็วเกินไปในหลายประเทศอาจทำให้ไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดรอบ 2 ได้ นอกจากนี้แรงขาย Sell on fact ช่วงโค้งสุดท้ายการประกาศงบ 1Q20 จะกดดันต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีจะสลับรีบาวด์ขึ้นได้จากความคาดหวังการปลด Lockdown เฟส 2 ในช่วงสัปดาห์นี้หลังวานนี้ศบค.รายงานไม่มียอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP TOP PTTGC SPRC ) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นหลังซาอุฯลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม
- กลุ่มค้าปลีก (CRC CPN HMPRO GLOBAL COM7 DOHOME) อานิสงส์ศบค.เตรียมผ่อนปรนมาตรการ Lockdown เฟส 2
- กลุ่มหุ้นที่ได้เข้าคำนวณ MSCI Thailand Index รอบใหม่ AWC BAM KTC มีผล 29 พ.ค.
หุ้นแนะนำวันนี้
- CPF (ปิด 28.25 ซื้อ/เป้า 32.75) แจ้งกำไรสุทธิ 1Q20 พุ่งขึ้นทำสถิติตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6,111 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 43%yoy และ 52%qoq จากต้นทุนอาหารสัตว์ลดลง และราคาเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะราคาหมูในเวียดนาม ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากข่าวผู้ผลิตเนื้อสัตว์และส่งออกไก่รายใหญ่ของบราซิลถูกสั่งปิดโรงงานเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน จากผลกระทบของไวรัส Covid-19 ระบาด คาดหนุนราคาไก่ในตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นจากซัพพลายที่ลดลงเนื่องจากบราซิลส่งออกไก่มากสุดของโลกคิดเป็น 33%
- CKP (ปิด 3.94 ซื้อ/เป้า 4.5) ทยอยสะสม มองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และจะทยอยฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q20 ตามปริมาณน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ส่งผลให้เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำของ CKP คือ เขื่อนน้ำงึม 2 และ เขื่อนไซยะบุรี ในลาวจะกลับมาผลิตไฟ้ได้เต็ม Capacity จากที่ลดลงอย่างมากในช่วงไตรมาส 4 และ 1 ที่ผ่านมา
บทวิเคราะห์วันนี้
BCP (ปิด 19 ซื้อ/เป้าใหม่ 23 เดิม 33), BEC (ปิด 4.66 ปรับลดเป็นขาย/เป้า 3.85), PSH (ปิด 10.9 ซื้อ/เป้า 17.5), QH (ปิด 2.08 ถือ/เป้า 2.2), VNT (ปิด 19 ซื้อ/เป้า 25)
ประเด็นสำคัญวันนี้
- (-) ดาวโจนส์ร่วง 517 จุด หลังประธานเฟดเตือนเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความเสี่ยงขาลงจากผลกระทบของไวรัส Covid-19 : เมื่อคืนที่ผ่านมานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ กับสถาบันเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศปีเตอร์สัน (PIIE) โดย พาวเวล ได้ออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความไม่แน่นอนสูงและยังมีความเสี่ยงขาลงจากการระบาดของไวรัส Covid-19 เฟดยังต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติม ขณะที่เดียวกันมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจที่สภาคองเกรสอนุมัติ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์อาจจะยังไม่เพียงพอ ดังนั้นเฟดและสภาคองเกรสยังต้องร่วมมือกันเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับมาฟื้นตัวในระยะยาว อย่างไรก็ตามประธานเฟดยืนยันว่าเฟดจะไม่ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบตามที่ โดนัล ทรัมป์ เรียกร้อง อย่างแน่นอน ผลจากคำเตือนของประธานเฟดกดดันให้นักลงทุนเทขายหุ้นทันที ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีก 517 จุด (-2.17%) ปิดที่ระดับ 23,248 จุด
- (-) สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 16 สัปดาห์ แต่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง เพราะนักลงทุนยังกังวลกับดีมานด์ที่ชะลอตัว : สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐออกมาลดลง 7 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 16 สัปดาห์ และสวนทางกับที่ Consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ตอบรับในทางบวกกับปัจจัยดังกล่าวเพราะนักลงทุนในตลาดยังกังวลถึงดีมานด์ที่ชะลอตัวหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดออกมาเตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความเสี่ยขาลง ขณะที่อีกหลายประเทศทั่วโลกออกมาคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของกิจ่กรรมทางเศรษฐกิจอาจจะต้องใช้เวลานานแม้จะมีการผ่อนคลาย lockdown ปัจจัยนี้กดดันให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 49 เซนต์ ปิดที่ระดับ 25.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ Brent ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ระดับ 29.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- (-) ระวังแรงขาย sell on fact และขายปรับพอร์ตหลังบริษัทจดทะเบียนประกาศงบ 1Q20 หดตัวแรงทั้ง qoq และ yoy : ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประกาศงบ 1Q20 ออกมาแล้วทั้งหมด 348 บริษัท คิดเป็น 44% ของจำนวนบริษัท แต่คิดเป็น 65% ของ Market cap รวมทั้งตลาด พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 7.3 หมื่นล้านบาท ลดลง 67.7%qoq และ 65.4%yoy นับเป็นผลกำไรที่ค่อนข้างอ่อนแอ ส่วนแนวโน้มใน 2Q20 คาดว่าจะยังทรงตัวในระดับต่ำเนื่องจากกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาคท่องเที่ยว และการลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีผลกำไรอ่อนแอมากขึ้นเพราะได้รับผลกระทบจาก lockdown มากกว่าไตรมาส 1 เราคงมุมมองเดิมคล้ายกับบทวิเคราะห์ Weekly report ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยมองว่า EPS ของตลาดยังมี Downside ที่จะถูกปรับลง ส่งผลให้ Valuation ของ Set จะยิ่งตึงตัวมากขึ้น และต้องระวังทั้งแรงขายจาก sell on fact และแรงขายปรับพอร์ต หลังบริษัทจดทะเบียนประกาศงบ 1Q20 ออกมาครบทั้งหมดในวันที่ 15 พ.ค.