'อธิบดีกรมการค้าภายใน' พร้อมทำงานเต็มที่หลังนายกฯ คืนตำแหน่ง
"วิชัย โภชนกิจ” ลั่นมุ่งมั่นทำงานต่อ หลังได้รับโอกาสจาก”บิ๊กตู่”นั่งเก้าอี้อธิบดีกรมการค้าภายในอีกครั้ง เร่งเดินหน้าทำงานดูแลปัญหาค่าครองชีพประชาชนช่วงวิกฤตโควิด ด้าน”จุรินทร์”ร่วมยินดีเป็นกำลังใจให้ทำงานต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.30 น. นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เข้าคารวะนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในวาระเข้ารับหน้าที่ในตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าภายในเดิมตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยที่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นโดยมีข้าราชการกรมการค้าภายในติดตามให้กำลังใจพร้อมมอบดอกไม้ต้อนรับกลับกระทรวงล้นหลาม
นายจุรินทร์ กล่าวระหว่างการรับมอบพวงมาลัยจากนายวิชัย ที่เข้าเยี่ยมคารวะหลังกลับเข้ารับตำแหน่ง ว่า ยินดีต้อนรับสู่กระทรวงอีกครั้งหนึ่ง กระทรวงพาณิชย์ภูมิใจที่มีข้าราชการที่มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละและอดทนต่อการพิสูจน์ความจริง หวังว่านายวิชัย จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการทุกคนต่อไปในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ขอแสดงความยินดีด้วยใจจริงและขอเป็นกำลังใจให้ตลอด 4 เดือนที่เหลืออยู่และตลอดไป
ด้านนายวิชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งให้กลับมารับตำแหน่งอีกรอบหลังจากที่มีคำสั่งให้ไปช่วยงานที่สำนักนายกฯระยะหนึ่ง ก็เป็นความรู้สึกที่ยินดีและขอบคุณอย่างยิ่งและขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรี ที่ได้ความเมตตาและให้ความเป็นธรรมกับตนเอง การที่นายกฯให้ตนเองกลับมาทำงานในตำแหน่งนี้อีกครั้งแสดงให้เห็นว่าการทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมาไม่มีมูล ในเรื่องของข้อสงสัยต่าง ๆ ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ข้าราชการมีความมั่นใจในการบัญชาการของนายกฯมากขึ้น
ทั้งนี้การที่นายกฯให้ตนเองกลับมานั้นไม่ใช่แค่ตนเองที่ได้รับขวัญกำลังใจแต่หมายถึงการทำให้ข้าราชการของกรมการค้าภายใน ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ และข้าราชการพลเรือน ทั่วไปได้รับขวัญกำลังใจมีความมั่นใจในการปฎิบัติงานเพื่อประเทศชาติต่อไปด้วย เพราะข้าราชการที่เคยถูกตั้งข้อสงสัยหรือเป็นที่สงสัยของสังคมเมื่อผ่านการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีมูลก็ได้รับความเป็นธรรม และสิ่งนี้ก็จะทำให้ข้าราชการมีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานรับใช้ประเทศชาติความตั้งใจเดิมมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อการบริหารราชการของตนเองและข้าราชการประจำทั่วไป
“บอกได้เลยว่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด ภาคภูมิใจที่สุดเพราะสิ่งที่เราทำไว้ ตั้งใจทุ่มเททำไว้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้อง” นายวิชัย กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่ากระบวนการจัดสรรหน้ากากอนามัยมีช่องโหว่บ้างช่วงนอกเวลาราชการนั้นจะมีการสืบสวนสอบสวนต่อเพื่อหาคนรับผิดชอบหรือไม่ นายวิชัย กล่าวว่า ในการจัดสรรหน้ากากอนามัยในช่วงที่ผ่านมายอมรับว่ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้นจริง เพราะเวลาแค่ 15 วัน ที่เข้ามารับผิดชอบในงานดังกล่าว โดยต้องจัดการทุกอย่าง ในโรงงาน 11 แห่ง ยอมรับว่าไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100%
นายวิชัย กล่าวว่า ความบกพร่องตรงนั้นต้องถามว่าเกิดจากอะไรหากเกิดจากเหตุที่เหนือบ่ากว่าแรง หรือสุดวิสัยตนเองและทีมงานก็ต้องขออภัยเพราะงานทุกอย่างเร่งรัดทำได้แค่นั้นก็รู้สึกภูมิใจแต่ถามว่าไหมก็สมบูรณ์แบบ 100%ไหมก็ยอมรับว่าไม่กล้าพูดว่าทำให้ 100% ซึ่งก็ต้องดูว่าข้อบกพร่องเกิดจากเจตนาหรือไม่ หากเกิดขึ้นเพราะการทุจริต ไม่โปร่งใสนั้นไม่ต้องห่วงเพราะนายกฯและตนเองก็พร้อมจัดการคนของตนเองได้หมด แต่ต้องเข้าใจว่าขณะนั้นสถานการณ์เร่งด่วนจริง ๆการที่จะทำให้รวดเร็ว โดยไม่มีข้อบกพร่องนั้นคงไม่ใช่ ส่วนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนอีกหรือไม่นั้น ที่ผ่านมาคณะกรรมการทั้งสองชุดนี้ จึงคิดว่าจะเพียงพอแล้ว แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ตนเองจะตอบหรือตัดสินใจได้เองเป็นเรื่องของผู้มีอำนาจ แต่สำหรับตนเองแล้วไม่อยากให้ตั้งเพราะเหลือทำงานแค่ 4 เดือน
“ข้อบกพร่องที่ว่าก็คือการที่ต้องให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าโรงงาน 24 ชม. ซึ่งตอนแรกกรมจะทำโดยให้เจ้าหน้าที่ไปนอนเฝ้าในแต่ละโรงงานแต่ก็เกินกำลังทีมงานของกรม เราจึงตอบไม่ได้ว่าหลังจากที่ทีมงานอกจากโรงงานไปแล้ว เซ็นต์รับทราบรถคันสุดท้ายออกจากโรงงาน หลังจากนั้นอะไรเกิดขึ้นบ้าง มีการวางแผนจะติดตั้งกล้องวงจรปิด วางแผนจะเอาตู้คอนเทนเนอร์ไปติดตั้งที่โรงงานเพื่อให้ทีมงานไปนอนเฝ้าแต่ทำไม่ทันเพราะมีการเปลี่ยนแปลงก่อน เรื่องนี้มองว่าหากโรงงานจะทุจริตเอาออกไปขายเอง เฝ้า 24 ชม.ก็ไม่รอดซึ่งโรงงานที่จะทุจริตขายเอากำไรเกิน 2.50 บาท ก็มีช่องทางอื่น และเกินกำลังที่กรมจะพิสูจน์” นายวิชัย กล่าว
นายวิชัย กล่าวว่า สำหรับภารกิจที่จะเร่งดำเนินการหลังกลับมารับตำแหน่งนั้นจะดูแลราคาสินค้าไม่ให้ปรับเพิ่มขึ้นเพื่อลดภาระประชาชนที่อยู่ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องหยุดงาน หรือตกงานทำให้ขาดรายได้ ซึ่งรมว.พาณิชย์ดำเนินการไปแล้วเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ผู้ผลิตสินค้า ห้างสรรพสินค้า ผู้กระจายสินค้าเป็นอย่างดี รวมทั้ง การบริหารจัดการผลไม้ปีนี้ได้เตรียมแผนรองรับมาตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้ว แผนทุกอย่างวางไว้อย่างดียิ่ง แต่มีผลไม้ที่ต้องเข้าไปดูแลเป็นพิเศษคือมังคุด เงาะที่กำลังจะออกมาหลังจากทุเรียน ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในก็ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้กระจายผลไม้ออกไป เช่น ช่วยเรื่องค่าขนส่ง การบรรจุหีบห่อ เป็นต้น และขอเชิญชวนให้ประชาชนบริโภคผลไม้ไทย เพื่อช่วยเกษตรกรชาวสวน
นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มนั้นเนื่องจากราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา ลดลงอย่างต่อเนื่องประกอบกับประชาชนใช้น้ำมันน้อยลงโดยเฉพาะดีเซลที่ปริมาณการลดลง 20% เพราะไม่ได้เดินทางมากนักในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19ส่งผล ทำให้การใช้น้ำมันบี 100 บี 10 บี20 ลดลงไปด้วยกว่า 20% ส่งผลให้สต็อกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น เป็น 250,000-300,000 ตัน จากที่มีอยู่ 170,000 ตัน นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้นเพราะน้ำมันดิบเริ่มปรับราคาขึ้นเป็น 32 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นส่งผลให้การใช้บี10 บี 20 บี100 ถูกนำไปใช้มากขึ้นด้วย และน้ำมันปาล์มดิบก็จะถูกใช้มากขึ้นด้วย ราคาปาล์มดิบก็จะขยับขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามขอให้เกษตรกรมันใจว่าราคาประกันรายได้ยังอยู่ที่ 4 บาท/กก. หากเกษตรกรขายไม่ได้ราคาตามนี้ก็จะได้รับเงินชดเชยโดยกำหนดให้ได้รับเงินทุก 30 วันจากเดิม 45 วัน และหากยังไม่ได้รับเงินหลังจากการขายไปแล้วก็ให้แจ้งไปยังพาณิชย์จังหวัด ธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ในเรื่องของการแก้ปัญหาฝนทิ้งช่วง กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรองรับไว้หมดแล้ว ทั้งตลาดภายในและการส่งออก เช่น การใช้เครือข่ายของตลาดต้องชม ในการกระจายสินค้า พืชผลทางการเกษตร เงินกู้เพื่อให้เกิดสภาพคล่องรวมทั้งการใช้นโยบายประกันรายได้กับพืชเกษตรต่อไป