พาณิชย์ดันน้อยหน่าปากช่องเป็นสินค้าจีไอ
“วีรศักดิ์”ลงพื้นที่ดูแหล่งผลิต “น้อยหน่าเพชรปากช่อง” ดันให้ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ รายการใหม่ของโคราช คาดช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ชุมชน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 3 ก.ค.2563 จะลงพื้นที่ติดตามและผลักดันการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หริอจีไอ(GI) รายการใหม่ ของจังหวัดนครราชสีมา โดยจะไปตรวจสอบแหล่งเพาะปลูกและแหล่งผลิต “น้อยหน่าเพชรปากช่อง” ณ สวนน้อยหน่าเพชรปากช่อง ผู้ใหญ่สมัย บ้านหนองตาแก้ว ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีโอกาสที่จะได้รับการขึ้นทะเบียน จีไอ ได้ เพราะถือเป็นของดีของชุมชน และมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างจากน้อยหนาของที่อื่น
“จะส่งทีมงานจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื้นที่ ไปทำงานร่วมกับจังหวัด เกษตรกร ผู้ประกอบการ เพื่อผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนจีไอ ต่อไป และหากได้รับการขึ้นทะเบียนจีไอ แล้ว จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับน้อยหน่าเพชรปากช่อง และช่วยให้เกษตรกร ผู้ประกอบการที่ปลูกน้อยหน่า มีรายได้เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจในระดับพื้นที่มีการขับเคลื่อนมากขึ้น”
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับน้อยหน่าเพชรปากช่อง เป็นพันธุ์ผสมระหว่างเซริมัวย่า (Cherimoya) พันธุ์หนังครั่ง และพันธุ์หนังเขียว ลักษณะ ผลเป็นรูปหัวใจ ผิวค่อนข้างเรียบ ร่องตาตื้นคล้ายน้อยหน่าหนัง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม เมื่อแก่จัดจะมีสีเขียวอ่อนถึงขาวนวล ผลไม่แตกเมื่อแก่ เปลือกบางลอกออกจากเนื้อได้เมื่อสุกจัด เนื้อเหนียวคล้ายน้อยหน่าหนัง มีการปลูกมากในพื้นที่อำเภอปากช่อง โดยบริเวณนี้มีสภาพดินแดงหรือดินชุดปากช่อง เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกน้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่องมากที่สุด ผลผลิตที่ออกมา จะมีขนาดใหญ่ มีเนื้อมาก เมล็ดเล็กและรสชาติหวานจัด มีฤดูกาลผลผลิตตลอดทั้งปี ราคาขาย 50–70 บาทต่อกิโลกรัม
นายวีรศักดิ์กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังมีแผนที่จะผลักดันขึ้นทะเบียนจีไอ รายการใหม่ๆ ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้รายงานรายการสินค้าที่มีโอกาสผลักดันขึ้นทะเบียนจีไอ แล้ว 147 รายการ จาก 50 จังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลไม้ ผ้าไหม เกษตรแปรรูป หัตถกรรม เครื่องจักรสาน เป็นต้น ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังจะส่งทีมลงพื้นที่ไปประชุมหารือร่วมกับจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกษตรกร ผู้ประกอบการชุมชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนจีไอแล้ว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นมีสินค้าเป้าหมาย 7 สินค้า จาก 6 จังหวัด ที่จะผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนจีไอ ในลำดับต้นๆ ได้แก่ ผ้าไหมปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา , พุทราบ้านโพน จังหวัดกาฬสินธุ์ , มะม่วงหนองแซง และเผือกหอมบ้านหอม จังหวัดสระบุรี , มังคุดคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช , มันแกวบรบือ จังหวัดมหาสารคาม และพริกไทยปะเหลียน จังหวัดตรัง
ปัจจุบัน ตั้งแต่ พ.ร.บ.คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ พ.ศ.2546 มีผลบังคับใช้ มีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจีไอ แล้ว จำนวน 143 สินค้า เป็นจีไอ ไทย จำนวน 126 สินค้า และจีไอ ต่างประเทศ จำนวน 17 สินค้า