ทอท.เยียวยา 'KING POWER' ชงบอร์ดยืดสัญญา 'ดิวตี้ฟรี' สุวรรณภูมิ
ทอท.ชงบอร์ดวันนี้ (29 ก.ค.) ไฟเขียวขยายสัญญา “คิงเพาเวอร์” เริ่มจ่ายผลตอบแทนดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ ตามจริง 1.5 หมื่นล้านเป็นปี 2565 หลังติดปัญหาส่งมอบพื้นที่ล่าช้า
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เปิดเผยว่า เนื่องจาก ทอท.ติดปัญหาการพัฒนาอาคารเทียบเครื่องบินรอง (แซทเทิลไลท์) หลังที่ 1 เพราะว่าวัสดุและอุปกรณ์บางชิ้นไม่สามารถขนส่งเข้ามาได้ เพราะผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้ ทอท.ประสบปัญหาส่งมอบพื้นที่ให้กับ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ผู้รับสัมปทานพัฒนาโครงการดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ
“เดิม ทอท.เปิดให้คิงเพาเวอร์สามารถเข้าพื้นที่รีโนเวทได้ในช่วงเดือน ก.ย.2563– เม.ย.2564 ใช้เวลาราว 6 เดือน และให้จ่ายค่าใช้พื้นที่ตามการใช้งานจริง หลังจากนั้นมีระยะเวลาสัมปทาน 10 ปี ในการบริหาร จึงจะเริ่มเก็บค่าเช่าพื้นที่แบบฟลู ตามที่คิงเพาเวอร์เสนอมา แต่ขณะนี้จะจัดเก็บเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเราเองที่ไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้เขาเข้าไปรีโนเวท” นายนิตินัย กล่าว
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ ทอท.ได้ประเมินจะเปิดให้บริการแซทเทิลไลท์ 1 ในเดือน เม.ย.2564 แต่เนื่องจากติดปัญหาเข้าพื้นที่จากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ต้องเลื่อนเปิดให้บริการออกไปเป็นเดือน ก.ย.2564
อีกทั้ง ทอท.ยังประเมินว่าจากผลกระทบโควิด -19 ทำให้การเดินทางชะลอตัวลง จึงคาดว่าผู้โดยสารจะกลับมาเดินทางเป็นปกติเทียบกับก่อนเกิดเหตุการณ์โควิด-19 ในเดือน ต.ค.2565 ดังนั้นจึงประเมินว่าอาจจะเลื่อนเปิดอาคารแซทเทิลไลท์ 1 ไปเป็นช่วงเดือน ต.ค.2565 เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสาร
แหล่งข่าวจาก ทอท.ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการ ทอท.ครั้งที่ผ่านมา ทอท.ได้เสนอขอขยายสัญญาดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ เป็นระยะเวลา 1 ปี จากเดิม 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574 เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาการเข้าพื้นที่ล่าช้า และสอดคล้องกับกำหนดเปิดให้บริการอาคารแซทเทิลไลท์ 1 แต่บอร์ดยังไม่ได้อนุมัติ เนื่องจากต้องการให้ ทอท.ไปหารือกับเอกชนคู่สัญญา ในรายละเอียดของการทำสัญญากับร้านค้าแบรนด์เนม และรายย่อยให้แล้วเสร็จ
“ตอนนี้เราเจรจากับคิงเพาเวอร์เสร็จแล้ว จากครั้งก่อนที่กังวลว่าคิงเพาเวอร์อาจจะไปทำสัญญากับร้านค้าแล้ว หากจะเลื่อนสัญญาออกไปจะเป็นผลกระทบ แต่ปัจจุบันเจรจาแล้วไม่เป็นปัญหา จึงเตรียมเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.วันที่ 29 ก.ค.นี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติขยายสัญญาให้สอดคล้องกับระยะเวลาการเปิดใช้แซทเทิลไลท์ 1” แหล่งข่าว กล่าว
สำหรับการขยายสัญญาดังกล่าวจะเป็นผลให้สัญญาในโครงการดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิ จากเดิมที่มีกำหนดเริ่มสัญญาตั้งแต่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574 รวมกำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ถูกปรับเป็นระยะที่ 1 ซึ่งเดิมกำหนดให้เข้าพื้นที่ก่อสร้างในช่วงเดือน ก.ย.2563–เม.ย.2564 ปรับเป็น ตั้งแต่เดือน ก.ย.2563–มี.ค.2565 ส่วนระยะเวลาประกอบการจะปรับเป็น เม.ย.2565–มี.ค.2575
ทั้งนี้ การขยายสัญญาครั้งนี้ ยังมีผลต่อการเลื่อนจ่ายผลตอบแทนเต็มตามที่คิงเพาเวอร์เสนอไว้ปีละ 15,419 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จากเดิมที่ ทอท.จะเรียกเก็บอัตราค่าตอบแทนดังกล่าวปีแรกในปี 2563 จะเลื่อนออกไปจัดเก็บปีแรกในปี 2565
สำหรับสัญญาดังกล่าวคิงเพาเวอร์ได้สิทธิบริหารในสนามบินสุวรรณภูมิ 2 ส่วน คือ
1.ดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสาร 1 พื้นที่ 12,021 ตารางเมตร อาคารเทียบเครื่องบินรอง (แซทเทิลไลท์) 3,000 ตารางเมตร พื้นที่สาธารณูปโภค 1,950 ตารางเมตร รวม 16,971 ตารางเมตร
2.กิจกรรมเชิงพาณิชย์ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสาร 1 พื้นที่ 22,665 ตารางเมตร อาคารแซทเทิลไลท์ 4,000 ตารางเมตร พื้นที่สาธารณูปโภค 2,655 ตารางเมตร รวม 29,320 ตารางเมตร
ทั้งนี้ คิงเพาเวอร์ได้สิทธิบริหารดิวตี้ฟรีสุวรรณภูมิตั้งแต่เปิดสนามบินเมื่อปี 2549 มีอายุสัญญา 10 ปี สิ้นสุดปี 2559 แต่ต่ออายุ 2 ครั้ง จากผลกระทบน้ำท่วมใหญ่และผู้ชุมนุมปิดสนามบิน รวมอายุสัญญาครั้งแรก 14 ปี ในขณะที่สัญญาใหม่ที่จะพิจารณาขยายเวลาถึงเดือน มี.ค.2575 จะทำให้คิงเพาเวอร์ได้บริหารดิวตี้ฟรีสนามบินสุวรรณภูมิต่อเนื่อง 25 ปี
นอกจากนี้คิงเพาเวอร์ยังได้สิทธิบริหารดิวตี้ฟรี 3 สนามบินภูมิภาค (ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่) ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.2563 –31 มี.ค.2574 รวมระยะเวลา 10 ปี 6 เดือน