กพท.ปรับเงื่อนไขบินเข้า-ออกประเทศ บุคคลในข้อตกลงพิเศษ
สำนักงานการบินพลเรือน ประกาศ เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย ฉบับที่ 3 บุคคลในข้อตกลงพิเศษ
ตามที่ได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตทำการบินของอากาศยานที่เดินทางมาจากต่างประเทศ นั้น
เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 13) ประกาศ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 7/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) สั่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 27 และมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความใน (7) ในข้อ 3 ของประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(7) คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ตลอดจนคู่สมรสและบุตรของบุคคลดังกล่าว”
ข้อ 2 ให้ยกเลิกความใน (8) ในข้อ 3 ของประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(8) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสและบุตรของบุคคลดังกล่าว หรือแรงงานต่างด้าวที่นายจ้างหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรได้รับอนุญาตจากทางราชการเพื่อผ่อนปรนให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและให้ทำงาน”
ข้อ 3 ให้ยกเลิกความใน (11) ในข้อ 3 ของประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(11) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษ (special arrangement) ระหว่างหน่วยงานของรัฐของประเทศไทยกับต่างประเทศ หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากนายกรัฐมนตรีตามข้อเสนอแนะและการตรวจสอบกลั่นกรองของคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่คณะกรรมการเฉพาะกิจดังกล่าวกำหนด”
ข้อ 4 ให้ยกเลิกความในข้อ 4 ของประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) ประกาศ ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 3 จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อและจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา หลักเกณฑ์และมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 และมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 8/2563 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 7) สั่ง ณ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563”
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2563
นายจุฬา สุขมานพ
ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย