ผ่าต้นแบบโคครีเอชั่น‘สยามพิวรรธน์’หนุนรายย่อย‘แชร์แวลู’ฝ่าวิกฤติ
วิกฤติโควิด-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน! และเป็นปัจจัยเร่งให้ทุกองค์กรพัฒนาและยกระดับการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและวิถีชีวิตผู้บริโภค
เป็นโอกาสสำคัญของบิ๊กคอร์ป “สยามพิวรรธน์” เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ในชื่อ วันสยาม (ONESIAM) และหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองริมแม่น้ำเจ้าพระยา สะท้อนแนวคิด โมเดลค้าปลีกแห่งอนาคต! ที่ได้บ่มเพาะ ปลูกฝังอยู่ในรูปแบบธุรกิจตลอดมาภายใต้วิสัยทัศน์ การขับเคลื่อนธุรกิจที่เอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับคนจำนวนมากที่จะปูทางไปสู่ความยั่งยืน!
ชฎาทิพ จูตระกูล ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวว่า สยามพิวรรธน์ ทำงานร่วมกับภาครัฐ เอกชน และชุมชน เพื่อสร้างรูปแบบธุรกิจต่างๆ ของการค้าปลีกที่ได้ใช้ธุรกิจและสถานที่ของสยามพิวรรธน์เป็น “เวที” นำเสนอสินค้าและบริการหลากหลายประเภท ช่วยพัฒนากิจการของผู้ประกอบการรายย่อยแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้ความรู้เรื่องการขายและการตลาดสมัยใหม่ สร้างกระบวนการเรียนรู้การทำธุรกิจและออมเงิน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หาพันธมิตรจากสถาบันการเงินต่างๆ สนับสนุนการลงทุน ผลักดันให้ “Local Hero” เติบโตเป็น “Global Hero” ต่อยอดสู่การค้าขายในเวทีโลก!
โครงการส่งต่อประโยชน์ต่างๆ ถูกพัฒนาและต่อยอดให้เกิดความสำเร็จร่วมกันนั้น ไม่ใช่เป็นเพียงการทำกิจกรรมเพียงครั้งคราวแล้วจบไป
ไม่ต่างจากชื่อของ "สยามพิวรรธน์" ที่หมายถึง...การพัฒนาสยามอย่างไม่หยุดยั้ง! ถูกฝังอยู่ใน DNA ของธุรกิจและเป็นสิ่งที่ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ซึ่งนับตั้งแต่ก่อตั้ง ในปี 2502 หนึ่งในปณิธานหลักของบริษัทคือ การพัฒนาโครงการให้เป็นรูปแบบธุรกิจเพื่อส่วนรวมที่สร้างคุณค่าต่อผู้คน ชุมชนสังคมและประเทศชาติ หลายปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ประกาศใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า ร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) และ การสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย (Creating Shared Values) ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่มุ่งการพัฒนาคนจากภูมิปัญญาไทยและความคิดสร้างสรรค์ส่งต่อประโยชน์ให้กับคนจำนวนมากในสังคมไทยและทั่วประเทศตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สร้างความเท่าเทียมในสังคม
บิ๊กโปรเจกในการพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยของสยามพิวรรธน์ อย่าง ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) ที่ไอคอนสยาม พื้นที่ 2,500 ตร.ม. มุ่งสร้างพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่รวมผลงานจากช่างฝีมือและภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยในมุมมองใหม่ลงบนงานหัตถศิลป์ เสมือน “ประตูแห่งโอกาส” ให้ช่างฝีมือและผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่า 500 ราย ก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจแบบโมเดิร์นเทรด!
ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ การตลาด การจัดการด้านการเงิน ซึ่งหลังเปิดบริการเพียง 2 ปี ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย สามารถขยายธุรกิจต่อยอดไปวางขายในต่างประเทศ นำสู่การขยายไอคอนคราฟต์ มายัง “สยามดิสคัฟเวอรี่” นำเสนอผลงานของสุดยอดช่างฝีมือไทยจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศกว่า 500 แบรนด์ ส่งต่อแรงบันดาลใจ
สยามพิวรรธน์ ยังมุ่งสร้างความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ “ไลฟ์สไตล์อีโค่” ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีสุขภาพดีและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน โดยเนรมิต อีโค่โทเปีย (Ecotopia) เมืองแห่งคนรักษ์โลกที่สยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็น อีโค่คอมมูนิตี้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พร้อมให้ทุกคนมาเริ่มเปลี่ยนแปลงตนเองและสร้างปรากฎการณ์รักษ์โลกไปด้วยกันตอบรับไลฟ์สไตล์ Sustainable Living ที่รวมสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าที่นำกลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิลได้ เป็นพื้นที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมโคครีเอทอย่างสร้างสรรค์เพื่อโลกเพื่อเรา “Together, We Co-Crate a Better World” มีโซนให้ผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่า 300 แบรนด์ ได้นำงานฝีมือและภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสรรค์จากวัตถุดิบธรรมชาติเพื่อสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน
"อีโค่โทเปีย เกิดจากการสร้างสรรค์ และความรู้ความเชี่ยวชาญของ 12 ผู้นำด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสาขาต่างๆ 12 รังสรรค์พื้นที่ของคนรุ่นใหม่สร้างสังคมแห่งความสุขที่เติบโตอย่างยั่งยืน สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและธรรมชาติ"
อีกเวทีสำคัญ "สุขสยาม" เมืองค้าปลีกรูปแบบใหม่ ที่ไอคอนสยาม รวบรวมผู้ประกอบการท้องถิ่น และช่างฝีมือกว่า 3,000 ราย จากทุกจังหวัดทั่วประเทศมานำเสนอสุดยอดผลิตภัณฑ์ไทย จนเกิดเป็นกลไกของระบบนิเวศทางการค้าที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ต่อยอดการพัฒนาสินค้าของแต่ละชุมชน
“สุขสยาม เป็นเวทีในการเรียนรู้กลไกการค้าปลีกและค้าส่ง สู่ต่างประเทศ การตลาดรูปแบบใหม่ อย่างครบวงจร (Omni Channel) การบริหารจัดการสินค้าโดยมีผู้เกี่ยวข้องทั่วประเทศ และผู้ได้รับประโยชน์ในวงกว้าง”
สุขสยามได้ผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กหลายรายประสบความสำเร็จมีโอกาสขยายธุรกิจต่างประเทศ มีรายได้ที่ดีมากขึ้น มีเงินทุนพัฒนาธุรกิจ ลูกหลานยินดีที่จะมาต่อยอดเพื่อสืบสานกิจการครอบครัวเพราะได้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริง!
การสร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย คือหัวใจหลักที่จะพัฒนาคนและสร้างสมดุลของระบบนิเวศทางการค้า ซึ่งจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งในเวลานี้