‘สยามพิวรรธน์’ปรับโครงสร้างมุ่งองค์กรดิจิทัล
สถานการณ์โควิด-19 มิใช่อุปสรรค! แต่เป็นปัจจัยเร่งให้ "สยามพิวรรธน์" มีการปรับเปลี่ยนและเคลื่อนธุรกิจให้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมพื่อขยายการขาย การบริการครอบคลุมลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลกภายใต้กลยุทธ์"ดิจิทัล เอ็กซ์พีเรียนซ์"ที่มีคนรุ่นใหม่ร่วมนำทัพมากขึ้น
"การขับเคลื่อนธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 คือ การบริหารจัดการความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในเรื่องความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศและที่เคยเดินทางมาเยี่ยมเยือนโครงการของเราจากทั่วโลก (Global Citizen) บริหารความคาดหวังจากบรรดาร้านค้า และพันธมิตรทางธุรกิจที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความสำเร็จในรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกัน ทำให้สยามพิวรรธน์ต้องเร่งปรับและพัฒนาองค์กร เพื่อให้บุคลากรทำงานได้อย่างคล่องตัว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว"
เป็นโจทย์ใหญ่และภารกิจเร่งด่วนของ ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” และสยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต ในการเดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กร รองรับการเปลี่ยนแปลงของโลก!
ชฎาทิพ กล่าวว่า สยามพิวรรธน์จะเร่งพัฒนาและปรับเปลี่ยนองค์กรให้สำเร็จในปีนี้! ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัย และเพื่อให้บุคลากรทั้งหมดทำงานได้อย่างคล่องตัว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทำให้เกิดผลงานได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์
เราเชื่อว่าในที่สุดสถานการณ์โควิด-19 จะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่ทุกคนจำเป็นต้องออกมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างมีวินัย และผู้คนจากทั่วโลกยังต้องเชื่อมโยงเข้าหากัน
ที่ผ่านมา...สยามพิวรรธน์ ก้าวข้ามการแข่งขันจากภายในประเทศสู่เวทีโลก สะท้อนจากการคว้ารางวัลชนะเลิศหลายสาขาของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกของโลกติดต่อกันหลายปี ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรทางธุรกิจ องค์กรชั้นนำระดับสากล โครงการของสยามพิวรรธน์ล้วนสร้างความประทับใจให้แก่ผู้คนที่เดินทางมาจากทั่วโลกจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางรั้ง “TOP10” ที่มีคนมาเช็คอินบนเฟซบุ๊ค และอินสตาแกรม มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ภารกิจและความท้าทายจากนี้ สยามพิวรรธน์วางโครงสร้างสู่การเป็นองค์กรที่นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล (Digital Experience) ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร ผ่านช่องทางออมนิชาแนล (Omni Channel) ที่ขยายเครือข่ายบนแพลตฟอร์มต่างๆ ให้เข้าถึงตัวลูกค้าทั่วประเทศและทั่วโลกแล้วเชื่อมโยงกลับมาที่สินค้าและบริการในศูนย์การค้าแบบไร้รอยต่อ
รวมทั้งการพัฒนาระบบอัตโนมัติ (Automation) ในการบริหารจัดการและการให้บริการ โดยมีบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกทำแผนงานเรื่องนี้โดยเฉพาะ พร้อมเสริมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย นั่นคือ อริยะ พนมยงค์ อดีต Head ของ Google ประเทศไทย อดีตกรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย ล่าสุด CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Transformational ซึ่งจะเข้ามานำทัพเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital transformation) ให้สยามพิวรรธน์
บริษัทที่ปรึกษาดังกล่าวจะนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลออมนิชาแนลและประสบการณ์จากการให้คำแนะนำแก่บริษัท Fortune Global 500 มาสนับสนุนให้สยามพิวรรธน์บรรลุเป้าหมายการเป็นผู้นำออมนิชาแนลที่โดดเด่นในไทยและภูมิภาคในอนาคต"
อัมพร โชติรัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ กล่าวเสริมว่า 3 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์ ใช้เงินกว่า 900 ล้านบาท พัฒนาระบบนวัตกรรม Digital Platform และระบบบริหารฐานข้อมูลครบวงจร โดยมีแผนลงทุนต่อเนื่องในปี 2564 พัฒนาระบบอัตโนมัติ 30 โครงการ เพื่อลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานในการให้บริการเรื่องต่างๆ ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ซับซ้อน ผลักดันให้ทุกคนทำงานได้สำเร็จเร็วขึ้น!
กลยุทธ์สำคัญในการสร้างประสบการณ์ดิจิทัลของสยามพิวรรธน์ คือการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลต่างๆ ให้เกิดธุรกิจโมเดลใหม่ รวมถึง โกลบอลพาร์ทเนอร์ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ค้าปลีกในประเทศต่างๆ ในการร่วมกันขยายเครือข่ายออมนิชาแนลให้ครอบคลุมทุกมิติทั่วโลก มุ่งสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ที่จะสร้างประสบการณ์ที่น่าสนุก แตกต่าง และประทับใจ ร่วมกับบรรดาคู่ค้าและร้านค้าที่มีอยู่ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์อย่างไร้พรมแดน
พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลตามกลยุทธ์ “สร้างคุณค่าสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่ายสู่ความยั่งยืน” โดยแต่งตั้ง มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ นั่งตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายส่งเสริมการตลาดและองค์กรสัมพันธ์ รับผิดชอบ การมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าทั่วโลก สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างธุรกิจใหม่ที่จะประสานประโยชน์ร่วมกันได้ในหลากหลายวิถีทาง
แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (President) สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ รับผิดชอบการยกระดับการขายเชื่อมโยงออฟไลน์สู่ออนไลน์ให้บรรดาร้านค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยจากฐานลูกค้าของสยามพิวรรธน์ที่มีอยู่แล้วทั่วโลก
เสริมทัพไปกับ อัมพร โชติรัชสกุล ซึ่งดูแลหน่วยงานสนับสนุน และทำ Digital Transformation
กนกลดา ฤกษ์เกษม ดูแลด้านบริหารการเงินและการขยายการลงทุน
อุสรา ยงปิยะกุล บริหารกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของบริษัทในเครือรวมถึงการขายออนไลน์
ในยุคแห่งการปฎิรูปการบริหารจัดการรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สยามพิวรรธน์ยังเสริมความแข็งแกร่งด้วยการดึง “คนรุ่นใหม่” จากหลากหลายสายงานมาสร้างทีมงานย่อยที่เน้นกระบวนการคิดและทำงานรวดเร็วอย่างมีอิสระเสรี (Agile Team) คล่องตัว รวดเร็วต่อการตอบสนองการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ
โดยจัด Agile Team คนรุ่นใหม่ และสร้างหน่วยงาน Think Tank รับผิดชอบหลากหลายโปรเจคในการพัฒนาธุรกิจ และทำงานร่วมกับบรรดาร้านค้า พันธมิตร เพื่อสร้างโมเดลการขายใหม่ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ได้แสดงศักยภาพเต็มที่เพื่อช่วยขับเคลื่อนองค์กร และส่งผลให้รายได้เติบโตในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย
“ทีมบริหารที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญในวงการค้าปลีกจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจในเครือของสยามพิวรรธน์มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน ไปพร้อมกับ Agile Team คนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นหัวหอกในการมองหาโอกาส นำแนวความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เกิดในโลกดิจิทัล มาช่วยพัฒนา ต่อยอดให้องค์กรมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่เหนือความคาดหมาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั่วโลกได้อย่างเต็มที่”
ชฎาทิพกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ในปี 2564-2565 สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จะถูกพลิกโฉมสู่คอนเซปต์การนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัล ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร! สร้างสุดยอดประสบการณ์ ผ่านช่องทางออมนิชาแนลทุกอาคาร ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆ ได้ตลอดเวลา
‘อริยะ พนมยงค์’นำทัพสู่‘องค์กรดิจิทัล’
“อริยะ พนมยงค์” มีประสบการณ์ที่กว้างขวาง เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซเชียล จะมาขับเคลื่อนสยามพิวรรธน์สร้างมิติใหม่ในการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ!
“ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส สยามพิวรรธน์พร้อมที่จะเริ่มสร้างและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต ซึ่งยังมีโอกาสอีกมากสำหรับการเติบโตในตลาดการค้า และอีคอมเมิร์ซ ที่มีพื้นที่เพียง 6% ของอุตสาหกรรมค้าปลีก"
อริยะ ย้ำถึงภารกิจสานเป้าหมายของสยามพิวรรธน์ว่า "การปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะนำไปสู่ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างสุดยอดประสบการณ์ดิจิทัลแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการนำนวัตกรรม และ Data Powered Marketing ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ลึกขึ้นมาสร้างเป็นแพลตพอร์มใหม่ตอบโจทย์ คู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ และผู้คนจากทั่วโลก"