DOHOME - ถือ

DOHOME - ถือ

เดินหน้าขยายสาขา และมุ่งเพิ่ม margin

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

Impact

คาดว่าผลประกอบการ 4Q63 จะออกมาดี

ถึงแม้ว่า SSSG จะติดลบในเดือนตุลาคม (เพราะเป็นช่วงฤดูฝน) แต่ก็พลิกกลับมาเป็นบวกในระดับเลขตัวเดียวสูง ๆ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทำให้ SSSG อยู่ที่ประมาณ 2% - 4% QTD และจะทำให้ SSSG ปี 2563 อยู่ที่ประมาณ 0-1.5% (ค่อนข้างใกล้เคียงกับสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 0.5%) ในขณะเดียวกัน เราก็คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะใกล้เคียงกับใน 3Q63 (16.8%) จากกลยุทธ์การเน้นขายสินค้า house brand และเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นใน 9M63 อยู่ที่ 15.7% อัตรากำไรขั้นต้นปีนี้จึงน่าจะเป็นไปตามสมมติฐานปี 2563 ของเราที่ 15.8%

ยอดขาย และอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นจะหนุนให้กำไรโตในปี 2564

เราคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นจากการขยายสาขา และการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่าน E-commerce (เว็บไซต์, Line, Facebook, Lazada และ Shoppee) โดยบริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนขยายสาขาในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น พื้นที่ EEC ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าจะเปิด 4 สาขาใหม่ Size L ในปี 2564 ซึ่งจะทำให้จำนวนสาขาร้านเพิ่มเป็น 16 สาขาในสิ้นปี 2564 (เป็นไปตามสมมติฐานของเรา) สำหรับการขยายสาขา DOHOME To Go บริษัทตั้งเป้าจะเปิดร้านใหม่เพิ่มอีก 15 ร้านในปี 2564 มากกว่าสมมติฐานปีหน้าของเราที่ 10 สาขา ในขณะเดียวกัน เราก็คาดว่าอัตรากำไรจะดีขึ้นจาก i) กลยุทธ์การเน้นจำหน่ายสินค้า
house brand โดยตั้งเป้าไว้ที่ 20% ภายในปี 2565 จาก 16.9% ใน 9M63 (เราใช้สมมติฐานปี 2563-65 ที่ 16.7% - 17.2%) ทั้งนี้ ยอดขายสินค้า house brand ที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1% จะทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ii) การบริหารจัดการสต็อกสินค้าจาก DC ของบริษัทได้ดีขึ้น และ iii) บริหารจัดการพื้นที่ปล่อยเช่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสรุปแล้ว เรายังคงประมาณการอัตราการเติบโตของกำไรของ DOHOME ในปี 2564-65 ไว้ที่ 32% และ 21% ตามลำดับ

Valuation & Action

เรายังคงให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 ที่ 14.30 บาท อิงจาก PER ที่ 34.0x (ค่าเฉลี่ยระหว่างของ GLOBAL และ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)* +0.5 S.D.) เนื่องจากราคาปิดล่าสุดเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกแค่ 8% เราจึงยังคงคำแนะนำ ถือ โดยมองว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไร YoY ในอีกสองสามไตรมาสข้างหน้าเป็นโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง ขยายสาขาไม่ได้ตามแผน ราคาพืชผลตกต่ำ ภัยธรรมชาติ มีสินค้าค้างสต็อกเพิ่มขึ้นการเปลี่ยนแปลงความนิยมของลูกค้าและกระแสตลาด