เอฟเอสฯ ลุ้น 64 ปีทองอุตฯโรงภาพยนตร์ ผนึกโอมาซ บริการ "นอนดูหนัง"
อุตสาหกรรมโรงหนังหืดจับ หนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์เลื่อนฉาย 10-20 เรื่อง เซ่นพิษโควิด เอสเอฟ ซีเนม่า หวังปีทองกลับมาอีกครั้งในปี 64 เหตุหนังที่เลื่อนฉายจ่อคิวเข้าโรงอีกเพียบ
“เราต้องการเพิ่มประสบการณ์ใหม่ในดูหนัง โดยใช้ที่นอนระดับโลกผสานกับเทคโนโลยีการรับชมภาพยนตร์ที่เอสเอฟฯ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการการผ่อนคลายมากขึ้น ซึ่งการจ่ายเงินดูหนังเสพความบันเทิงนอกบ้านเป็นค่าใช้จ่ายที่ต่ำ คุ้มค่า”
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ปี 2564 คาดว่าจะกลับมาเติบโตและเป็น “ปีทอง” อีกครั้ง เพราะหนังฮอลลีวู้ดฟอร์มยักษ์ที่เลื่อนฉายจากปี 2563 ต่อคิวเข้าฉายปีหน้าจำนวนมาก เช่น พยัคฆ์ร้าย007 ตอน No Time to Die, Fast and Furious 9 ฯ บริษัทจึงวางแผนลงทุนขยายโรงภาพยนตร์เพิ่ม 4 สาขา จำนวน 20 โรง จากปัจจุบันมี 64 สาขา จำนวน 400 โรง
นายทีปกร โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โลตัส เบดดิ้ง กรุ๊ป และโอมาซ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การร่วมมือกับเอสเอฟฯครั้งนี้ มุ่งสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค และเมื่อจะเลือกซื้อที่นอน จะได้นึกถึงแบรนด์โอมาซเป็นอันดับแรก(Top of mind)
“นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์โอมาซได้ร่วมเนรมิตโรงภาพยนตร์ The Bed Cinema by Omazz® เพื่อให้ผู้ชม ได้สัมผัสถึงความสบายในแบบที่ต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัสผ่านรีโมทไร้สาย ตลอดการรับชมภาพยนตร์เรื่องโปรด ได้มากกว่าที่เคยบนเตียงนวดปรับระดับไฟฟ้า Adjusto™ หนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีชที่แบรนด์โอมาซภาคภูมิใจ ในฐานะแบรนด์ที่รังสรรค์ประสบการณ์การพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและเอาใจใส่สิ่งแวดล้อมภายใต้ปรัชญาของ แบรนด์โอมาซที่ว่า “Peace is true happiness” มานานกว่า 2 ทศวรรษ จนประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับมากมายในหลายประเทศทั่วโลก