แฉโกง 'คนละครึ่ง' โดนแน่! 'พาณิชย์' เอาจริงเปิดกลโกง-ผลจับกุมร้านค้าแตกแถว

แฉโกง 'คนละครึ่ง' โดนแน่! 'พาณิชย์' เอาจริงเปิดกลโกง-ผลจับกุมร้านค้าแตกแถว

กรมการค้าภายใน ฟันร้านค้า "คนละครึ่ง" และ ร้านธงฟ้า ฉวยโอกาสขึ้นราคาขายสูงเกินจริง ไม่ปิดป้ายราคา และแสดงราคาเป็นภาษาอื่น เผยประชาชนแห่ร้องสายด่วน 1569 มากถึง 277 รายตั้งแต่ 23 ต.ค.63 นอกจากเล่นงานตามกฎหมาย ยังตัดสิทธิ์ออกจากร้านธงฟ้าด้วย

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตั้งแต่รัฐบาลเริ่มดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการ “คนละครึ่ง” เมื่อวันที่ 23 ต.ค.63 จนถึงขณะนี้ กรมได้ร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ปูพรมตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้ฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนที่ใช้สิทธิ์ในโครงการ รวมถึงตรวจสอบร้านธงฟ้า ที่ขายอาหารปรุงสำเร็จ และสินค้าอุปโภคบริโภค ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ยังได้ตรวจสอบพฤติกรรมร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง และร้านธงฟ้าทั่วไป ตามการร้องเรียนของประชาชน 277 รายผ่านสวยด่วนกรม โทร.1569 ที่ฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชนในหลายกรณี ซึ่งได้ดำเนินการตามพ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 แล้ว

สำหรับการร้องเรียน 277 รายนั้น แบ่งเป็น ร้องเรียนพฤติกรรมของร้านธงฟ้า 125 ราย และร้านค้าในโครงกรคนละครึ่งอีก 152 ราย โดยพฤติกรรมพ่อค้าแม่ค้า ที่เอาเปรียบนั้น มีทั้งปรับขึ้นราคาขายสูงขึ้นจากราคาปกติ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้าจากก่อนหน้านี้ปิดป้าย หรือแสดงราคาขายสินค้าเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาไทย เช่น ภาษาอังกฤษ รวมถึงทำผิดเงื่อนไขการเข้าร่วมเป็นร้านธงฟ้า เป็นต้น

         

 “การตรวจสอบร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ มีทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบเป็นปกติอยู่แล้ว และตรวจตามการร้องเรียนของประชาชน ซึ่งพบว่า มีพฤติกรรมเอาเปรียบตามที่ประชาชนร้องเรียนมาจริง โดยเฉพาะร้านที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ที่พบมากคือ ปรับขึ้นราคาขายสูงขึ้นจากเดิม บางรายขายราคาสูงเกินจริง เพื่อหวังเอาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล มีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการไม่ปิดป้าย กรมได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว

ส่วนร้านธงฟ้า ที่มีพฤติกรรมปรับขึ้นราคาขายสินค้านั้น ได้ตัดสิทธิ์การเป็นร้านธงฟ้าแล้ว เพราะทำผิดเงื่อนไขการเป็นร้านธงฟ้า ที่ห้ามขึ้นราคาขาย อีกทั้งการเป็นร้านธงฟ้า ได้รับสิทธิประโยชน์หลายอย่างจากภาครัฐ แต่กลับเอาเปรียบประชาชน และซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนอีก

หลังรับเรื่องร้องเรียนสามารถจับกุมแล้ว 18 ราย ในรูปแบบความผิด เช่น ไม่ปิดป้ายราคา  คิดค่าอินเทอร์เน็ต  ทำผิดเงื่อนไข  ไม่แสดงราคาเป็นภาษาไทย ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการตรวจสอบทั้งรูปแบบสุ่มตรวจและตามข้อมูลการร้องเรียนต่อไป

           

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้ว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดลงไปดูสถานการณ์การค้าขาย ไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบบประชาชน และประสานให้ผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ขนส่งสินค้าเข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลน ส่วนภายหลังน้ำลดแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะจัดคาราวานสินค้าราคาถูกเข้าไปขายในพื้น เพื่อช่วยฟื้นฟูประชาชนที่ได้รับผลกระทบ