แอมเวย์ โกยยอดขายโต 3% โควิด บูมคนตกงานซบขายตรง
สินค้าเพื่อสุขภาพ “นิวทริไลท์” เป็นพระเอกสร้างยอดขายเติบโต 7% หลังโควิดหนุนผู้บริโภครักสุขภาพ บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารป้องกันเจ็บป่วย “แม่ทัพ” แอมเวย์ คาดวิกฤติพ้นจุดต่ำสุดแล้ว รออุตฯ เศรษฐกิจ กำลังซื้อฟื้น
นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้ปี 2563 แอมเวย์จะเผชิญวิกฤติโควิดเช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ แต่บริษัทสามารถปรับตัว และสร้างการยอดขายรวมได้ 20,800 ล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อน ปัจจัยที่ส่งผลบวกเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัส ส่งผลให้ผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้สินค้านิวทริไลท์ เป็นที่ต้องการของกลุ่มเป้าหมายสูงมาก จนป้อนตลาดไม่ทัน
นอกจากนี้ มาตรการล็อกดาวน์ จนชัตดาวน์ธุรกิจ รวมถึงกระทบการทำงานของนักธุรกิจแอมเวย์ไม่สามารถเดินทางไปพบปะลูกค้าได้ แต่ที่ผ่านมา บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ปลุกปั้นแพลตฟอร์มการชอปปิงออนไลน์รองรับการขายไว้แล้ว ทำให้สามารถจำหน่ายสินค้า และสร้างการเติบโตเท่าตัว 30% จากเดิม 15%
ขณะเดียวกันท่ามกลางธุรกิจจำนวนมากได้รับผลกระทบ ผู้คนตกงาน ยังส่งผลให้คนเข้ามาสมัครเป็นนักธุรกิจขายตรงช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายนเพิ่มขึ้น 7%
“ธุรกิจแอมเวย์มีการเติบโตตามเป้าหมาย และช่วงโควิดมีคนสมัครเป็นนักธุรกิจมากขึ้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิดกระทบต่อคนทั้งโลก ธุรกิจเสียหาย เศรษฐกิจกำลังซื้อหดตัว แต่คาดว่าตอนนี้้เป็นจุดต่ำสุด จากนี้ภาพใหญ่อุตสากรรมเซ็คเตอร์ต่างจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนความกังลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดระลอก 2 3 หรือระลอกใหม่ๆ เชื่อว่าผู้ประกอบการจะรับมือได้ เพราะช่วงล็อกดาวน์ธุรกิจถูกกระทบหนักสุดและรอดมาได้”
ด้านภาพรวมธุรกิจขายตรงมีมูลค่า 71,000 ล้านบาท ซึ่งแนวโน้วการเติบโตปีนี้และปีหน้าจะอยู่ในภาวะทรงตัว
นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สินค้านิวทริไลท์สร้างยอดขาย 13,800 ล้านบาท เติบโต 7% โดยผลการสำรวจของมินเทล ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทย 82% ให้ความใส่ใจกับสินค้าสุขภาพมากขึ้น ที่สำคัญผู้บริโภควัยมิลเลเนียลสนใจบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารค่อนข้างมาก ทำให้ปี 2564 บริษัทยังเน้นทำตลาดสินค้าสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ตลาด
สำหรับยอดขายแอมเวย์ ปัจจุบันนิวทริไลท์ทำสัดส่วนมากสุด 65% สินค้าสุขภาพ 14% สินค้าความงาม 9% และอื่นๆ เช่น สินค้าเครื่องใช้ส่วนบุคคล สินค้าเครื่องใช้ภายในบ้าน 13%