THCOM - ขาย

THCOM - ขาย

ผลประกอบการ 4Q63: พลิกกลับมาเป็ นขาดทุนสุทธิอีกครั้ง

Event

THCOM พลิกมาเป็นขาดทุนสุทธิ 258 ล้านบาทใน 4Q63 จากที่มีกำไรสุทธิ 77 ล้านบาทใน 3Q63 แต่ดีขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิ 1.97 พันล้านบาทใน 4Q62 โดยรวมทั้งปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 514 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเรา 28% แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดถึง 405% ทั้งนี้ THCOM ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2563 (กำหนดขึ้น XD วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564)

lmpact

ผลการดำเนินงานหลักใน 4Q63 แย่ลง QoQ แต่ดีขึ้น YoY

หากไม่รวมรายการพิเศษ THCOM จะมีผลขาดทุนหลัก 174 ล้านบาทใน 4Q63 แย่ลงจากที่ขาดทุนหลัก 21 ล้านบาทใน 3Q63 แต่ดีขึ้นจากที่ขาดทุนหลัก 295 ล้านบาทใน 4Q62 โดยผลประกอบการจากธุรกิจหลักที่แย่ลง QoQ ใน 4Q63 เป็นเพราะค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นถึง 17% QoQ แต่เมื่อเทียบ YoY ผลขาดทุนหลักใน 4Q63 มีจำนวนที่ลดลง เพราะต้นทุนลดลง 14% YoY หลังจากที่มีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ใน 4Q62 และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 11% YoY หลังจากที่มีการชำระหนี้สินเชื่อไปบางส่วน

เริ่มมีทางออกหลังสิ้นสุดสัมปทาน แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่

เริ่มมีทางออกสำหรับการดำเนินงานของ THCOM หลังสิ้นสุดสัมปทานดาวเทียมสองดวง (ไทยคม 4 และ ไทยคม 6) ใน 3Q64 เช่น การเข้าร่วมประมูลวงโคจรดาวเทียมที่จะจัดโดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และให้บริการภาคพื้นดิน และเกตเวย์ สำหรับพันธมิตรที่เป็นเจ้าของดาวเทียมแบบวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit- LEO) ในประเทศไทย ทั้งนี้ในกรณีดีที่สุด ภายใต้สมมติฐานว่า i) THCOM ชนะประมูล 1-2 slot โดยราคาสุดท้ายสูงกว่าราคาตั้งต้นเพียง 10% ii) อัตราการใช้งานดาวเทียมใหม่จะอยู่ที่ 25% ในปีแรกของการให้บริการ iii) ดาวเทียม
ดวงใหม่จะสร้างรายได้ในอัตราเดียวกับรายได้ที่ได้รับจากบริการในปัจจุบัน และ iv) โครงการ LEO จะเริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป ซึ่งคาดจะทำให้ราคาเป้าหมายของเราเพิ่มขึ้น 2.70 – 3.50 บาท

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2564-65 เอาไว้ตามเดิม

เรายังไม่ได้รวมโครงการข้างต้นเอาไว้ในประมาณการ โดยเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เอาไว้ที่ 36 ล้านบาท และปี 2565 ที่ 43 ล้านบาท เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอยู่ อย่างเช่น i) ความเสี่ยงที่อาจจะไม่ชนะในการประมูลวงโคจร หรือชนะประมูลด้วยราคาที่สูงกว่าที่คาดไว้ ii) ค่าเช่าดาวเทียม
ในช่วงที่ดาวเทียมดวงใหม่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง สูงกว่าคาด iii) ต้นทุนในการซื้อดาวเทียมดวงใหม่สูงกว่าที่คาดไว้ และ iv) ความล่าช้า หรือการยกเลิกโครงการ LEO เพราะบริษัทเพิ่งจะอยู่ในขั้นตอนของการเจรจากับบริษัทที่อาจจะเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรเท่านั้น

Valuation & Action

เรายังคงราคาเป้าหมาย DCF ปี 2564 เอาไว้ที่ 4.94 บาท (ใช้ WACC ที่ 9.5%) ทั้งนี้เราประเมินราคาเป้าหมายในกรณีดีที่สุดเอาไว้ที่ 7.60 –8.50 บาท ซึ่งยังคงต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน ดังนั้น เราจึงปรับลคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ขาย”

Risks

ความไม่แน่นอนจากกฎเกณฑ์ของทางการ