‘เงินบาท’วันนี้เปิดตลาด‘อ่อนค่า’ที่ 30.35บาทต่อดอลลาร์
ตลาดการเงินเข้าสู่โหมดระวังตัวสูง หลังบอนด์ยีลด์ขึ้นเร็ว นักลงทุนหวั่นกระทบต้นทุนกดดันแรงขายหุ้นเทคฯ ขณะที่เงินบาทยังอ่อนค่าตามเงินดอลลาร์ แม้มีแรงซื้อหุ้นและบอนด์ คาดระยะสั้นแกว่งตัวกรอบแคบ
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ไทยพาณิชย์(SCBS) เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.35 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.32 บาทต่อดอลลาร์ ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.25-30.40 บาทต่อดอลลาร์
ในช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินกลับเข้าสู่โหมดระมัดระวังตัวสูง หลังบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีปรับตัวขึ้นเร็วถึง8.3bps มาที่ระดับ 1.47% ส่งผลให้ความคาดหวังเงินเฟ้อ (5-year U.S. Breateven Rate) ขยับขึ้นถึงระดับ 2.5% สูงที่สุดในรอบกว่า 10 ปี
ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่าระดับต้นทุนในการประกอบธุรกิจ กดดันให้เกิดแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจนทำให้ดัชนี Nasdaq ร่วงลงถึง 2.70% และดัชนี S&P 500 ปิดลบ 1.3% โดยนักลงทุนกลับไปเก็งกำไรกับหุ้นขนาดเล็กที่เชื่อว่าจะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการกลับมาเปิดทำการของภาคธุรกิจเต็มที่
ฝั่งตัวเลขเศรษฐกิจก็ไม่ได้ส่งสัญญาณฟื้นตัวแข็งแกร่งในเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชน (U.S. Feb. ADP Employment Change) ขยายตัวขึ้นเพียง 1.17 แสนตำแหน่ง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (U.S. Feb. ISM Services Index) รายงานออกมาที่ระดับ 55.3จุด ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่ระดับ 58.8จุด ชี้ว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ได้รีบร้อนจ้างแรงงานกลับมาและกำลังจับตาไปที่แผนกระตุ้นเศรษฐกิจขอบนายโจ ไบเดน
ส่วนในตลาดเงิน แม้บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีจะปรับตัวสูงขึ้นและตลาดหุ้นปรับฐาน แต่ด้วยภาพเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัวทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเพียง 0.3% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยมีสกุลเงินในฝั่งยุโรปเช่นปอนด์อังกฤษ (GBP) เป็นทางเลือก
ส่วนเงินบาท ช่วงที่ผ่านมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ แม้จะมีกระแสเงินทุนไหลเข้าทั้งหุ้นและบอนด์ไทยตามความเชื่อเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลัง คลายล็อคดาวน์
มองว่าระยะสั้นเงินบาทมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบเนื่องจากมีทั้งแรงหนุนและแรงต้านผสมผสานกัน ขณะที่การซื้อขายในตลาดช่วงนี้ก็ไม่สูงมาก เนื่องจากนักค้าเงินส่วนใหญ่กำลังรอดูแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและภาพรวมตลาดแรงงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงินธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า ค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่ยังคงผันผวนในกรอบกว้างอยู่ และผันผวนตามทิศทางของเงินดอลลาร์
รวมถึงแรงเทขายสินทรัพย์ในฝั่ง EM โดยยังคงต้องระวัง กรณีที่ยีลด์ 10ปีสหรัฐฯ ยังพุ่งขึ้นต่อได้ ตามความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่อาจได้แรงหนุนจากการจ้างงานที่ดีกว่าคาดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันให้ สกุลเงิน EM ผันผวนมากขึ้นและอ่อนค่าลงได้ ตามแรงเทขายสินทรัพย์ EM (ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออก)
นอกจากนี้ ในช่วงระยะสั้น ฝั่งผู้นำเข้า โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงเข้ามาซื้อเงินดอลลาร์ เช่นเดียวกับบริษัท MNC ญี่ปุ่น ที่เข้ามาซื้อสกุลเงินต่างประเทศ อาทิ เงินเยนที่เพิ่มมากขึ้น ในช่วงปิดปีงบประมาณ
ขณะที่ในฝั่งผู้ส่งออกก็ไม่รีบมาขายเงินดอลลาร์ เพราะมองว่า เงินบาทยังอาจจะอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์ได้อยู่ ทำให้ ค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในกรอบกว้างถึง 30.15-30.50 บาทต่อดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30.30-30.45 บาทต่อดอลลาร์