‘ทาวน์เฮ้าส์’ส่งสัญญาณโอเวอร์ซัพพลาย
เปิดผลสำรวจ‘อสังหาฯ’กลางมรสุมโควิด‘ทาวน์เฮ้าส์’ส่งสัญญาณโอเวอร์ซัพพลายจากการที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลงมาเล่น ทดแทน ตลาดคอนโดชะลอตัวต่อเนื่อง
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร สายงานสินเชื่อธุรกิจ วิเคราะห์ว่า สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ต่างจากธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งในส่วนของการผลิต และผู้ประกอบการที่ต้องชะลอการขาย ส่งผลให้การเปิดโครงการใหม่ทุกประเภทในปี 2563 ที่ผ่านมา 'ลดลง' อย่างมีนัยยะสำคัญ จำนวนยูนิตเปิดขายของปี 2563 อยู่ที่ 72,752 ยูนิต ลดลง 38,492 ยูนิต (-34%) จากปี 2562 ซึ่งลดลงต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 3 - 4 ล้านบาท เป็นกลุ่มสินค้าที่เข้ามาใหม่ในตลาดมาก รองลงมาคือคอนโดมิเนียมในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมการขายของที่อยู่อาศัยแนวราบในปี 2563 ทาวน์เฮ้าส์ยังคงเป็นกลุ่มที่มีจำนวนยอดขายรวมสูงสุดที่ 20,557 ยูนิต ซึ่งมีการปรับตัวลดลงตามสถานการณ์โควิด-19 เช่นกัน โดยยอดขายรวมปรับตัวลดลง 28% จากปี 2562 ส่วนบ้านเดี่ยวมียอดขายรวมในปี 2563 เท่ากับ 10,690 ยูนิต ปรับตัวลดลง3% จากปี2562 แนวโน้มอุปทานเปิดใหม่ของทาวน์เฮ้าส์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 มีอุปทานคงค้างทั้งหมด 75,053 ยูนิต จำนวนยูนิตของทาวน์เฮ้าส์เปิดใหม่ในปี 2564 มีโอกาสที่จะเพิ่มมากขึ้นกว่าปี 2563
สายงานสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ประเมินว่า การขายของทาวน์เฮ้าส์ในปี 2564 คาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากทาวน์เฮ้าส์จะเป็นสินค้าหลักที่มา 'ทดแทน'ตลาดคอนโดมิเนียม ในโซนของส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าในโซนรอบนอกมากขึ้น หลังจากในปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายลดการพัฒนาคอนโดมิเนียมลงและเปลี่ยนมาพัฒนาโครงการแนวราบโดยเฉพาะทาวน์เฮ้าส์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณที่อยู่ในรัศมีของการเข้าถึงรถไฟฟ้าใหม่ส่วนต่อขยายได้ยังมีความต้องการของผู้ซื้อสูง ทดแทนการซื้อบ้านเดี่ยวที่ขยับราคาสูงขึ้นมากในระดับราคามากกว่า 7.0-10.0 ล้านบาท รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ไม่ต้องการที่จะอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมซึ่งมีข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ที่เล็กลงมากไม่สอดคล้องกับระดับราคาที่สูงขึ้น
ในด้านระดับราคาขายของทาวน์เฮ้าส์ก็มีการปรับตัวของระดับราคาขายที่สูงขึ้น โดยกลุ่มทาวน์เฮ้าส์ในพื้นที่ใกล้เมืองระดับราคา 3 - 4 ล้านบาทเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ ซึ่งการแข่งขันในเซกเมนต์นี้มีการแข่งขันสูงขึ้น ในบางทำเลเริ่มมีสัญญาณทาว์นเฮ้าส์ล้นตลาด (oversupply)จากการที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ลงมาเล่นตลาดนี้ คาดว่ากลุ่มระดับราคาที่น่าจะมีการแข่งขันกันมากคือ ทาวน์เฮ้าส์ในระดับราคา 2 - 3 ล้านบาท และยอดขายรวมของทาวน์เฮ้าส์ในปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 26,000++ ยูนิต ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณการขายได้ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 7 - 10 ล้านบาทยังขายดีในบางทำเล